เปิดซองใบแจ้งยอดหนี้เครดิตการ์ดของไทยพาณิชย์ตอน 6 โมงเย็น คลี่แผ่นพับโฆษณาที่แนบมาในซอง ก็ป๊ะกับคูปองใบนี้ค่ะ แหม ยังกะรู้ใจ อ่านรีวิวร้านนี้มามาก กำลังอยากไปลองรสชาติอยู่พอดีเลย เป็นร้านที่อยู่ใน list ลำดับต้นๆ ที่อยากไปเลยทีเดียว โอกาสมาถึงแล้ว 4 จ่าย 3
แปลว่าต้องไปกันสี่คน สบายมาก เดี๋ยวโทรไปห้องพี่สาวก่อน ชวนพี่สาวกะหลานไปสองคน ครบสี่พอดี ปรากฎว่าเหลือกันอยู่สองคนแม่ลูก ไม่เป็นไร (ครั้งที่1) ขาด 1 คนเอง เรื่องเล็ก ชิวๆ โทรไปห้องพี่ชายคนโตที่อยู่ตึกคอนโดเดียวกัน ไม่มีคนรับสาย คงออกไปกินข้าวเย็นกันหมดแล้ว ไม่เป็นไร (ครั้งที่ 2) ยังมีครอบครัวพี่ชายคนที่สอง ต้องอยู่ซักคนละน๊า หลายกริ๊งงงง แล้ว ไม่มีคนรับสาย Nobody home เฮ้อออออ ไม่อยากจะเชื่อเลย รวมคนแค่สี่คนทำไม่ได้ สิ้นไร้ไม้ตอก อะไรเช่นนี้
(ถูกไม๊เนี่ยสุภาษิตนี้ ถูกกาละไม๊เนี่ย) ช่าง คูปองไว้ใช้วันหลังก็ได้ เชอะ สะบัดบ๊อบใส่คูปอง 3 ทีแรงๆ หมดอายุตั้งวันที่ 8 พย แน่ะ
คิดได้ดังนั้น พวกเราจึงฝ่าฝนไปกันสามคน (ฉัน พี่สาว หลาน) เจอน้องหนูหน้าร้าน ฉันยื่นคูปองให้ดูบอกว่าพี่มา 3 จ่าย 2 ได้ไม๊ อิอิ
(ยังๆ ยังไม่ละความพยายามจะใช้คูปอง) น้องหนูก็ดี๊ดี อุตส่าห์นำความไปปรึกษาแคชเชียร์ด้านใน แล้วออกมาบอกว่าไม่ได้ค่ะ ต้องตามที่ระบุไว้ในคูปองเท่านั้น
ด้านในกว้างขวางใหญ่โตมองจากด้านนอกไม่รู้เลยค่ะ ว่าข้างในโต๊ะเยอะขนาดนี้ ทำเลที่น่านั่งที่สุดเป็นริมหน้าต่าง สามคนเดินรี่ตรงไปที่หน้าต่างเหมือนมีอะไรดึงดูดทันที น้องหนูพนักงานเสริฟหน้าตาดีรีบวิ่งมาบอกว่า มีคนจองหมดแล้วค่ะ ริมหน้าต่าง
เราเดินขวับกลับมานั่งที่ชุมชนแออัด ฉันว่าโต๊ะตั้งติดกันเกินไปค่ะ หมดความเป็นส่วนตัว ถ้าจะมาแนะนำให้จองโต๊ะริมหน้าต่างนะคะ เหมาะกับการมานั่งจุ๋งจิ๋งๆ กันค่ะ
ด้านนี้เป็นด้านที่กั้นเอาไว้ยังไม่เปิดให้บริการ
แล้วเราสามคนก็เริ่มกางเมนู เตรียมเลือกอาหาร 8 อย่าง ตอนเลือกนี่ก็เริ่มสนุกสนานแล้วค่ะ เราสามคนเหมือนตั้งการ์ดขึ้นมา เลือกแบบสุดความสามารถ ประมาณของใครเลือกได้ของไม่อร่อยมานี่จะเสียหน้า ถูกเยาะเย้ยไปอีกสามวัน (เป็นนิสัยเสียลิขสิทธิ์ของครอบครัวเราเลยค่ะ)
เพราะฉะนั้นรีวิวนี้เราไม่เน้นว่าต้องชิมทุกอย่างนะคะ ต่างคนต่างเลือกที่อยากกิน แล้วมาโหวตกันว่า จานไหนของใครเลือกได้ดี แล้วก็อร่อยที่สุด
จานแรก Appetizer จานนี้ไม่ต้องเลือก มาเหมือนกันหมด Tokiya Style Eringi เห็ดเออริจิผัดซอสโทคิยะ เป็นเห็ดเออรินจิผัดโรยผงอะไรคล้ายๆ พริกป่น หยิบส้อมจิ้มเห็ดเข้าปาก อืม อร่อย ขนาดที่เสริฟกำลังพอเหมาะ ฉันว่าถ้าเยอะกว่านี้จะเลี่ยนแน่ อะไรแน่
จานต่อไปฉันสั่ง Cocktail Fruit Salad ทุกคนลงความเห็นว่ารสแปลกเกินไป แล้วก็ แสงสลัวเกินกว่าจะแยกแยะว่ามีอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง ที่แน่ๆ ต้องมีปูอัด ผลไม้แล้วก็ผัก เปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ น้ำสลัด ขอบจานเป็นน้ำเปรี้ยวๆ รสชาติของ Passion fruit โดดออกมาเลย ได้ที่ 2 ค่ะจานนี้
หลานสั่ง Tomato Salad สลัดมะเขือเทศไข่กุ้งมังกร อันนี้ไม่ได้ชิมค่ะ เพราะแค่เห็น หอมใหญ่ที่โรยหน้ามาก็กลัวแล้ว จานนี้ได้ที่ 3
พี่สาวสั่ง Smoked Duck Salad สลัดเป็ดรมควัน อร่อยมากจานนี้ ให้ชนะเลิศ เป็ดนุ่ม จัดจานเสริฟ มาสวยงามสุด
ต่อไป ต่อเลยค่ะ ต่อเลย
ซุป ฉันสั่ง ซุปเนื้อโทคิยะ น้ำซุปกลมกล่อมมาก มีเยื่อไผ่ด้วย เสริฟมาแบบร้อนระอุควันฉุย เรียบเกลี้ยงจานในเวลาอันรวดเร็ว
หลานสั่ง มิโสะครีมซุป แล้วฉันก็ไม่ได้ชิมด้วย เพราะไม่ชอบซุปครีม
พี่สาวสั่ง ซุปต้มโคล้ง เธอชิมไปคำ แล้วก็ หันมาตัก จานซุปของฉัน แล้วก็เป็นคนตัดสินว่า ซุปเนื้อชนะเลิศ ซุปต้มโคล้งที่สอง ซุปครีมของเจ้าหลาน ได้ที่สุดท้าย
จานที่ 4 Rice Dishes มีให้เลือกสองอย่างข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่อง กับ ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบ
สองแม่ลูกชิงเลือก ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบที่เสริฟมาในไหเล็กๆ เอียงๆ น่ากิน ไปซะก่อน ฉันก็เลยลองเลือกต่างดู สั่ง ข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่องไป ข้าวในไหอร่อยดีค่ะ หอมกรุ่นสมุนไพรจริงๆ ของฉันบ๊ะจ่างญี่ปุ่นนั่นเอง ข้าวอัดแน่น กินไม่หมดค่ะก้อนนี้ ข้าวในไหมินิชนะไปค่ะ course นี้
หมดจานนี้เราจะได้เริ่ม main course กันซะที ก่อนจะเสริฟ main course จานที่เรารอคอย ก็เหมือนเราจะเริ่มอิ่มกันซะแล้วสิ น้องหนูพนักงานเสริฟหน้าดี (อีกแล้ว) หน้าตาดีทั้งร้านจริงๆ ค่ะ ก็เอาน้ำรสชาติเปรี้ยวอร่อยมาเสริฟให้ดื่มเรียกน้ำย่อยมาเสริมทัพเพิ่มเติม Mulberry Vinegar Juice อร่อยมากค่ะ แก้วนี้
ฉันสั่ง Combu Australia Beef Streak สำหรับ main course
พี่สาวกะหลานสั่งเหมือนกัน Tokiya Australia Beef Streak
สองจานนี้เป็นสุดยอดจริงๆ สมกับเป็น main course นุ่มแบบเหลือเชื่อว่าเนื้อจะนุ่มได้ขนาดนี้ นี่ขนาดสั่งแบบ medium well done ไปนะคะ มีให้เลือกทั้งหมดสิบอย่างสำหรับ main course คงอร่อยแทบทุกจานแน่ๆ ปริมาณที่ให้มาก็เยอะมากกกกกกก กินกันไปขมกันไปได้คนละครึ่งจานก็อิ่มมาก แต่ก็กินจนหมดนะคะ
สุดท้ายแล้วค่ะ จานนี้ ขนมหวาน ฉันจิ้มไปที่ เยลลี่มิกซ์เบอร์รี่ เยลลี่เนื้อแข็งไปหน่อย จานนี้กินไม่หมดค่ะ อิ่มมาก แล้วก็ เป็นคนไม่ปลื้มของหวานเท่าไร
ของพี่สาวกะหลาน แพนนาค๊อตต้า สองคนนั้นชมเปาะๆ ว่าอร่อย แต่อิ่มเหลือเกิน
สุดท้ายแล้วก็ยังมีปิดท้ายอีก เฮ้อออออ ร้านนี้ คนละ 500 บาท กินกันจนเหนื่อยจริง ไรจริงเลยนะเนี่ย กาแฟเย็นเหมาะสำหรับคนชอบกาแฟแรงๆ ขมๆ แก้วนี้ของพี่สาวค่ะ หลานสั่งสีฟ้ามาแล้ว ฉันก็เลยสั่งเป็นสีแดง ปรากฏว่าของฉันอร่อยสุด เปรี้ยวจิ๊ด ได้ใจ
จนถึงวันนี้วันที่เขียนรีวิว เป็นวันที่ 11/11/11 ว้าวเลขสวย ฉันก็ยังไม่ได้ใช้คูปอง เพราะเหตุการณ์น้ำท่วม กทม เพราะฉะนั้นมันจึงเป็น
คูปองมา 4 จ่าย 3 ที่ไม่ได้ใช้ ฮ่าาาาาาา
นั่งทำรีวิวไป ก็เปิดเฟซบุ๊ค ดูที่เพื่อนๆ แชร์กันเรื่องน้ำท่วม ไปเจอข้อความนี้ค่ะ ขำดี เอามาลงให้ชาว openrice อ่านเล่นๆ ถ้าใครมาอ่าน หลังเหตุการณ์ก็ถือเป็นการระลึกความหลังนะคะ กลอนเปล่าที่สรุปเหตุการณ์น้ำท่วมไว้แบบขำๆ คงเครียดจนขำอ่ะค่ะ แชร์ผ่านเฟซบุ๊คกันไปมาจนไม่รู้ใครเป็นเจ้าของข้อเขียนนี้นะคะ
ท.ท.ท (ท่องเท่วไทย) ในวันนี้
ล่องเรือชมสนามบิน ร่วมกินอาหารแจก
ช่วยกันแบกกระสอบทราย ตามหางูหายที่ปากเกร็ด
แก้เคล็ดร่วมพิธีไล่น้ำ เดินตามหา ศปภ.
นั่งรอรถทหาร ชื่นชมยานพาหนะดัดแปลง
ดูคนกินแรงแปะชื่อ ช่วยป้องกันคนรื้อคันกันน้ำ
... เป็นเวรยามเฝ้าบ้านผู้อพยพ เก็บศพตามคลองประปา
ช่วยหมาตามบ้านเศรษฐี วิ่งหนีจระเข้แถวบางใหญ่
น้ำท่วมทั่วไทยสุขสันต์ ทั้ง ทุกข์ ทั้ง มันส์ ทั้งสุข
ร่วมสนุกได้แล้ววันนี้ ณ พื้นที่หน้าบ้านคุณ...
เมนูแนะนำ:
สเต็กเนื้อสันออสเตรเลีย
วันที่ไปกิน: Oct 15, 2011
ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿500
คะแนนด้านอื่นๆ:Taste
5 |
Environment
4 |
Service
5 |
Clean
5 |
Price
5แนะนำ