Thai | English
edako
ฉันชื่อedako . I am a นักกินเที่ยว อาหารเหนือ, อาหารไทยทั่วไป, อาหารนานาชาติ are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านฟาสต์ฟู้ด / จานด่วนและปิ้งย่าง บาร์บีคิว, สุกี้ ชาบู , อาหารทะเล.
สมาชิก 24 รีวิวแรก
รีวิว39 รีวิว
編輯推介數目7 Editor's Choice
Recommended13 แนะนำ
ความนิยม3684 เข้าชม
Replies in Forum1 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ198 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews22 รีวิวแนะนำ
My Restaurant0 ร้านโปรด
Follow4 Following
粉絲126 Follower(s)
edako  Level 3
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่   Editor's Choice  ยิ้ม ไม่ปลื้ม  ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 22 รีวิวแนะนำใน ประเทศไทย
albatross11
191 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | ซูชิ ซาซิมิ | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม | จัดเลี้ยง ปาร์ตี้

วันนี้วันอาทิตย์ ฉันนอนตื่นสายโด่งงงง ตื่นขึ้นมาลืมตากลิ้งไปมาบนเตียงยังอยากนอนแช่อย่างนี้ต่อไป ยังไม่อยากลุกเลยอ่ะ สักพักคิดได้สะดุ้งพรวดโดดผลึงไปคว้านาฬิกาที่หัวเตียงมาดู แล้วก็ต้องตาเหลือก 11 โมง แล้ว เอิ้ก จะเป็นลม มีนัดกินข้าวเที่ยง 11.30 ที่ The grill Tokyo สยามพารากอน เสียลุคส์คนตรงเวลาที่สร้างมานานเป็นแน่แท้แล้ววันนี้

อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว โบกแท๊กซี่ไปสยามพารากอน 11.40 ฉันก็มายืนอยู่หน้าร้านอาหารที่นัดกันไว้ ทันเวลาพอดี จริงๆ ตั้งใจว่าจะมาเดินเลือกซื้อเครื่องซักผ้าตั้งแต่ 10 โมง นี่ผิดแผนไปหน่อยเพราะตื่นสาย แต่ไม่เป็นไรกินเสร็จค่อยไปเดินดูก็ได้ จะได้เดินย่อยอาหารไปในตัว

ร้านอยู่ชั้น G นะคะ บริเวณที่เป็นส่วนของร้านอาหาร วันนี้ไปนั่งที่เคาท์เตอร์ปลาดิบดีกว่า เผื่อโปรยเสน่ห์ให้เชฟแล่ปลาตัดส่วนดีๆ ให้ (พูดไปงั้นอ่ะ เชฟไม่เคยว่างมาคุยด้วยซักที ยิ่งไปเวลาอาหารเที่ยงแบบนี้แล้วด้วย ไม่เคยสำเร็จๆ ชิ สะบัดบ๊อบใส่เชฟสองที)

 
ตอนเที่ยงมีอาหารเซ็ทค่ะ เซ็ทละ 390++ (456 net) ในหนึ่งเซ็ทจะมี 4 courses ค่ะ ประกอบไปด้วย Appetizer, Grilled dish, Main dish, Dessert น้ำดื่มต่างหาก ฉันสั่งชาเขียวร้อน ราคา 80 บาท ราคาโหด แต่ชาก็หอมค่ะ หุหุ
ซุป

ซุป

 
ซุปมาก่อนใครเลย

จานแรกสำหรับ Appetizer ฉันเลือก Green salad with fresh salmon fillets and scallops
สลัดปลาดิบ

สลัดปลาดิบ

 
ผักสดกรอบ เนื้อปลานิ่มหยุ่น น้ำสลัดรสชาติดีหอมกลมกล่อมมาก

จานที่สอง Grill dish ฉันเลือก Deep fried bean curd with sweet miso sauce วันนี้อารมณ์ไม่อยากกินอะไรที่ย่อยยากก็เลยเลือกจานนี้ไป
เต้าหู้ทอดราดซอสมิโสะหวาน

เต้าหู้ทอดราดซอสมิโสะหวาน

 
โอ้ย เลือกไม่ผิดเลยจริงๆ เนื้อเต้าหู้บวกกับฝีมือในการทอดของเชฟทำให้เต้าหู้มีเปลือกนอกที่หอมอร่อย เนื้อในนุ่มเวลาเคี้ยวไปนานๆ จะได้ความหวานของถั่วเหลือง ส่วน sweet miso sauce หวานเหนียวข้นสมชื่อค่ะ กุ้งต้มที่โรยหน้ามาเป็นกุ้งใหญ่เนื้อสดดึ๋งเลยค่ะ

จานที่สาม Main dish จานนี้เป็นจานที่เลือกนานมาก สองจิตสองใจระหว่างข้าวหน้าปลาดิบ vs ข้าวหน้าปลาไหลย่าง แล้วก็ฝ่ายแดงชนะค่ะ สั่ง Rice bowl of teriyaki grilled eel
ข้าวหน้าปลาไหลย่าง

ข้าวหน้าปลาไหลย่าง

 


ข้าวเหนียวนุ่มได้มาตรฐานข้าวญี่ปุ่นชั้นดี ปลาไหลย่างหอมกลิ่นถ่านที่ใช้ย่างไปถึงเนื้อใน เนื้อปลานุ่มลิ้น เสริฟมาแบบร้อนระอุควันฉุย อืม อาหารที่ดีต้องเป็นแบบนี้สิ ส่วนจานนี้ของน้องที่มาด้วย ข้าวหน้าปลาดิบ น่ากินมว๊ากกกกก สงสัยๆ เชฟจะต้องมนต์เสน่ห์น้องที่มาด้วยซะแล้ว
ข้าวหน้าปลาดิบ

ข้าวหน้าปลาดิบ

 
เนื้อปลาแต่ละชิ้นหน้าตาดีเชียว แต่รสชาติเป็นอย่างไร น้องขี้หวงไม่ชวนพี่คนนี้ชิมสักคำ เชอะ เดี๋ยววันหลังมากินใหม่ก็ได้

Dessert เป็นจานสุดท้าย ต้องเลือกดีๆ ห้ามพลาด ฉันเลือก Black sesame Pudding
พุดดิ้งงาดำ

พุดดิ้งงาดำ

 
เนื่องจากเป็นคนชื่นชอบงาดำสูงสุด ถูกใจมากเป็นของหวานที่ไม่หวาน กำลังดีเลย งาดำก็ห๊อมหอม ไปอีกจะสั่งจานนี้อีก อิอิ ไปสี่คนสั่งกันคนละเซ็ท ค่าเสียหายเป็นดังนี้ค่ะ

 
 
เมนูแนะนำ:  set lunch
 
วันที่ไปกิน: Oct 16, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿500

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
albatross11
191 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารนานาชาติ | อาหารฟิวชั่น | ร้านอาหารฝรั่ง | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง



เปิดซองใบแจ้งยอดหนี้เครดิตการ์ดของไทยพาณิชย์ตอน 6 โมงเย็น คลี่แผ่นพับโฆษณาที่แนบมาในซอง ก็ป๊ะกับคูปองใบนี้ค่ะ แหม ยังกะรู้ใจ อ่านรีวิวร้านนี้มามาก กำลังอยากไปลองรสชาติอยู่พอดีเลย เป็นร้านที่อยู่ใน list ลำดับต้นๆ ที่อยากไปเลยทีเดียว โอกาสมาถึงแล้ว 4 จ่าย 3 lol

แปลว่าต้องไปกันสี่คน สบายมาก เดี๋ยวโทรไปห้องพี่สาวก่อน ชวนพี่สาวกะหลานไปสองคน ครบสี่พอดี ปรากฎว่าเหลือกันอยู่สองคนแม่ลูก ไม่เป็นไร (ครั้งที่1) ขาด 1 คนเอง เรื่องเล็ก ชิวๆ โทรไปห้องพี่ชายคนโตที่อยู่ตึกคอนโดเดียวกัน ไม่มีคนรับสาย คงออกไปกินข้าวเย็นกันหมดแล้ว ไม่เป็นไร (ครั้งที่ 2) ยังมีครอบครัวพี่ชายคนที่สอง ต้องอยู่ซักคนละน๊า หลายกริ๊งงงง แล้ว ไม่มีคนรับสาย Nobody home เฮ้อออออ ไม่อยากจะเชื่อเลย รวมคนแค่สี่คนทำไม่ได้ สิ้นไร้ไม้ตอก อะไรเช่นนี้ mad (ถูกไม๊เนี่ยสุภาษิตนี้ ถูกกาละไม๊เนี่ย) ช่าง คูปองไว้ใช้วันหลังก็ได้ เชอะ สะบัดบ๊อบใส่คูปอง 3 ทีแรงๆ หมดอายุตั้งวันที่ 8 พย แน่ะ smile

คิดได้ดังนั้น พวกเราจึงฝ่าฝนไปกันสามคน (ฉัน พี่สาว หลาน) เจอน้องหนูหน้าร้าน ฉันยื่นคูปองให้ดูบอกว่าพี่มา 3 จ่าย 2 ได้ไม๊ อิอิ tongue (ยังๆ ยังไม่ละความพยายามจะใช้คูปอง) น้องหนูก็ดี๊ดี อุตส่าห์นำความไปปรึกษาแคชเชียร์ด้านใน แล้วออกมาบอกว่าไม่ได้ค่ะ ต้องตามที่ระบุไว้ในคูปองเท่านั้น sad

 

ด้านในกว้างขวางใหญ่โตมองจากด้านนอกไม่รู้เลยค่ะ ว่าข้างในโต๊ะเยอะขนาดนี้ ทำเลที่น่านั่งที่สุดเป็นริมหน้าต่าง สามคนเดินรี่ตรงไปที่หน้าต่างเหมือนมีอะไรดึงดูดทันที น้องหนูพนักงานเสริฟหน้าตาดีรีบวิ่งมาบอกว่า มีคนจองหมดแล้วค่ะ ริมหน้าต่าง

เราเดินขวับกลับมานั่งที่ชุมชนแออัด ฉันว่าโต๊ะตั้งติดกันเกินไปค่ะ หมดความเป็นส่วนตัว ถ้าจะมาแนะนำให้จองโต๊ะริมหน้าต่างนะคะ เหมาะกับการมานั่งจุ๋งจิ๋งๆ กันค่ะ

ด้านนี้เป็นด้านที่กั้นเอาไว้ยังไม่เปิดให้บริการ

 

แล้วเราสามคนก็เริ่มกางเมนู เตรียมเลือกอาหาร 8 อย่าง ตอนเลือกนี่ก็เริ่มสนุกสนานแล้วค่ะ เราสามคนเหมือนตั้งการ์ดขึ้นมา เลือกแบบสุดความสามารถ ประมาณของใครเลือกได้ของไม่อร่อยมานี่จะเสียหน้า ถูกเยาะเย้ยไปอีกสามวัน (เป็นนิสัยเสียลิขสิทธิ์ของครอบครัวเราเลยค่ะ)

เพราะฉะนั้นรีวิวนี้เราไม่เน้นว่าต้องชิมทุกอย่างนะคะ ต่างคนต่างเลือกที่อยากกิน แล้วมาโหวตกันว่า จานไหนของใครเลือกได้ดี แล้วก็อร่อยที่สุด

 

จานแรก Appetizer จานนี้ไม่ต้องเลือก มาเหมือนกันหมด Tokiya Style Eringi เห็ดเออริจิผัดซอสโทคิยะ เป็นเห็ดเออรินจิผัดโรยผงอะไรคล้ายๆ พริกป่น หยิบส้อมจิ้มเห็ดเข้าปาก อืม อร่อย ขนาดที่เสริฟกำลังพอเหมาะ ฉันว่าถ้าเยอะกว่านี้จะเลี่ยนแน่ อะไรแน่

จานต่อไปฉันสั่ง Cocktail Fruit Salad ทุกคนลงความเห็นว่ารสแปลกเกินไป แล้วก็ แสงสลัวเกินกว่าจะแยกแยะว่ามีอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง ที่แน่ๆ ต้องมีปูอัด ผลไม้แล้วก็ผัก เปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ น้ำสลัด ขอบจานเป็นน้ำเปรี้ยวๆ รสชาติของ Passion fruit โดดออกมาเลย ได้ที่ 2 ค่ะจานนี้
หลานสั่ง Tomato Salad สลัดมะเขือเทศไข่กุ้งมังกร อันนี้ไม่ได้ชิมค่ะ เพราะแค่เห็น หอมใหญ่ที่โรยหน้ามาก็กลัวแล้ว จานนี้ได้ที่ 3
พี่สาวสั่ง Smoked Duck Salad สลัดเป็ดรมควัน อร่อยมากจานนี้ ให้ชนะเลิศ เป็ดนุ่ม จัดจานเสริฟ มาสวยงามสุด

ต่อไป ต่อเลยค่ะ ต่อเลย

 
ซุป ฉันสั่ง ซุปเนื้อโทคิยะ น้ำซุปกลมกล่อมมาก มีเยื่อไผ่ด้วย เสริฟมาแบบร้อนระอุควันฉุย เรียบเกลี้ยงจานในเวลาอันรวดเร็ว
หลานสั่ง มิโสะครีมซุป แล้วฉันก็ไม่ได้ชิมด้วย เพราะไม่ชอบซุปครีม
พี่สาวสั่ง ซุปต้มโคล้ง เธอชิมไปคำ แล้วก็ หันมาตัก จานซุปของฉัน แล้วก็เป็นคนตัดสินว่า ซุปเนื้อชนะเลิศ ซุปต้มโคล้งที่สอง ซุปครีมของเจ้าหลาน ได้ที่สุดท้าย

จานที่ 4 Rice Dishes มีให้เลือกสองอย่างข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่อง กับ ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบ

 
สองแม่ลูกชิงเลือก ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบที่เสริฟมาในไหเล็กๆ เอียงๆ น่ากิน ไปซะก่อน ฉันก็เลยลองเลือกต่างดู สั่ง ข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่องไป ข้าวในไหอร่อยดีค่ะ หอมกรุ่นสมุนไพรจริงๆ ของฉันบ๊ะจ่างญี่ปุ่นนั่นเอง ข้าวอัดแน่น กินไม่หมดค่ะก้อนนี้ ข้าวในไหมินิชนะไปค่ะ course นี้

หมดจานนี้เราจะได้เริ่ม main course กันซะที ก่อนจะเสริฟ main course จานที่เรารอคอย ก็เหมือนเราจะเริ่มอิ่มกันซะแล้วสิ น้องหนูพนักงานเสริฟหน้าดี (อีกแล้ว) หน้าตาดีทั้งร้านจริงๆ ค่ะ ก็เอาน้ำรสชาติเปรี้ยวอร่อยมาเสริฟให้ดื่มเรียกน้ำย่อยมาเสริมทัพเพิ่มเติม Mulberry Vinegar Juice อร่อยมากค่ะ แก้วนี้

ฉันสั่ง Combu Australia Beef Streak สำหรับ main course
พี่สาวกะหลานสั่งเหมือนกัน Tokiya Australia Beef Streak

 
สองจานนี้เป็นสุดยอดจริงๆ สมกับเป็น main course นุ่มแบบเหลือเชื่อว่าเนื้อจะนุ่มได้ขนาดนี้ นี่ขนาดสั่งแบบ medium well done ไปนะคะ มีให้เลือกทั้งหมดสิบอย่างสำหรับ main course คงอร่อยแทบทุกจานแน่ๆ ปริมาณที่ให้มาก็เยอะมากกกกกกก กินกันไปขมกันไปได้คนละครึ่งจานก็อิ่มมาก แต่ก็กินจนหมดนะคะ

 
สุดท้ายแล้วค่ะ จานนี้ ขนมหวาน ฉันจิ้มไปที่ เยลลี่มิกซ์เบอร์รี่ เยลลี่เนื้อแข็งไปหน่อย จานนี้กินไม่หมดค่ะ อิ่มมาก แล้วก็ เป็นคนไม่ปลื้มของหวานเท่าไร
ของพี่สาวกะหลาน แพนนาค๊อตต้า สองคนนั้นชมเปาะๆ ว่าอร่อย แต่อิ่มเหลือเกิน

 
สุดท้ายแล้วก็ยังมีปิดท้ายอีก เฮ้อออออ ร้านนี้ คนละ 500 บาท กินกันจนเหนื่อยจริง ไรจริงเลยนะเนี่ย กาแฟเย็นเหมาะสำหรับคนชอบกาแฟแรงๆ ขมๆ แก้วนี้ของพี่สาวค่ะ หลานสั่งสีฟ้ามาแล้ว ฉันก็เลยสั่งเป็นสีแดง ปรากฏว่าของฉันอร่อยสุด เปรี้ยวจิ๊ด ได้ใจ

จนถึงวันนี้วันที่เขียนรีวิว เป็นวันที่ 11/11/11 ว้าวเลขสวย ฉันก็ยังไม่ได้ใช้คูปอง เพราะเหตุการณ์น้ำท่วม กทม เพราะฉะนั้นมันจึงเป็น คูปองมา 4 จ่าย 3 ที่ไม่ได้ใช้ tongue ฮ่าาาาาาา

นั่งทำรีวิวไป ก็เปิดเฟซบุ๊ค ดูที่เพื่อนๆ แชร์กันเรื่องน้ำท่วม ไปเจอข้อความนี้ค่ะ ขำดี เอามาลงให้ชาว openrice อ่านเล่นๆ ถ้าใครมาอ่าน หลังเหตุการณ์ก็ถือเป็นการระลึกความหลังนะคะ กลอนเปล่าที่สรุปเหตุการณ์น้ำท่วมไว้แบบขำๆ คงเครียดจนขำอ่ะค่ะ แชร์ผ่านเฟซบุ๊คกันไปมาจนไม่รู้ใครเป็นเจ้าของข้อเขียนนี้นะคะ

ท.ท.ท (ท่องเท่วไทย) ในวันนี้

ล่องเรือชมสนามบิน ร่วมกินอาหารแจก
ช่วยกันแบกกระสอบทราย ตามหางูหายที่ปากเกร็ด
แก้เคล็ดร่วมพิธีไล่น้ำ เดินตามหา ศปภ.
นั่งรอรถทหาร ชื่นชมยานพาหนะดัดแปลง
ดูคนกินแรงแปะชื่อ ช่วยป้องกันคนรื้อคันกันน้ำ
... เป็นเวรยามเฝ้าบ้านผู้อพยพ เก็บศพตามคลองประปา
ช่วยหมาตามบ้านเศรษฐี วิ่งหนีจระเข้แถวบางใหญ่

น้ำท่วมทั่วไทยสุขสันต์ ทั้ง ทุกข์ ทั้ง มันส์ ทั้งสุข
ร่วมสนุกได้แล้ววันนี้ ณ พื้นที่หน้าบ้านคุณ... tongue

 
เมนูแนะนำ:  สเต็กเนื้อสันออสเตรเลีย
 
วันที่ไปกิน: Oct 15, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿500

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
albatross11
191 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | สุกี้ ชาบู

ไปทำธุระแถวๆ ซอยท่องหล่อค่ะวันนี้ กว่าจะเสร็จงานก็เย็นย่ำค่ำมืด หิวแล้ว ต้องเดินออกไปขึ้น BTS เลยคิดว่า หาอะไรกินแถวนี้ก่อนไปขึ้นรถกลับบ้านดีกว่า เดินออกมาหน่อยเดียวก็เจอร้านนี้ อยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 4 และ 6 ติดถนนหาง่ายค่ะ ตามแผนที่นะคะ ตึกอเนกวานิช 3 ชั้น 2

 
เดินขึ้นบันไดด้านข้างตึกไปชั้นสอง ก็เจอร้านแล้วค่ะ บรรยากาศ สงบ นั่งสบาย ไปเป็นโต๊ะแรกเลยค่ะ

ที่นี่มีให้เลือกแบบ a la carte และ Buffet ค่ะ สำหรับคนไม่ทานเนื้อ 299++ คนทานเนื้อ เพิ่มราคามาอีกหน่อย 399++ ฉันคนไม่ทานหมู เลือกแบบ 399++ น้ำซุปมีให้เลือก 4 แบบ คือน้ำซุปซีอิ้วญี่ปุ่น, น้ำซุปใสชาบูชาบู, น้ำซุปมิโซะ และที่แปลกแตกต่างจากร้านอื่นคือ น้ำซุปแกงกะหรี่ ซึ่งฉันไม่เลือกแน่นอน บรื๋อออออ กลิ่นผงกระหรี่นี่ไม่ถูกกับฉันจริงๆ ปรึกษาหารือกันแล้วตกลงเลือกน้ำซุปซีอิ้วญี่ปุ่น ลวกเนื้อมาจิ้มไข่สด น่าจะอร่อย ชาเขียวร้อนเย็น ฟรีนะคะ

 
ใช้เตาแบบแก๊สกระป๋อง มีน้ำจิ้มแบบที่คนไทยคุ้นลิ้นไว้บริการแต่ไม่ได้แตะน้ำจิ้มนี้เลยค่ะ เพราะ ไม่เข้ากับน้ำซุปซีอิ้วญี่ปุ่นที่เลือก จิ้มแต่ไข่สด



เมนูบุฟเฟ่ต์มีเยอะพอสมควรค่ะ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เบคอน (หมูสามชั้น) ไก่,หมูไม้ไผ่ ปลา ปลาหมึก ลูกชิ้นปลาแซลมอน เต้าหู้ เส้นบุก วุ้นเส้น เส้นอุด้ง ผักกาดขาว ผักโขม หอมญี่ปุ่นเ ห็ดหอม เห็ดเข็มทอง ข้าวผัดกระเทียม ข้าวสวย เริ่มสั่งเลยนะคะ อ้อ ที่นี่ไม่ซีเรียสเรื่องเวลาค่ะ ลองสอบถามพนักงานไปแล้ว เพราะไม่เห็นมีระบุในเมนู

 
ผักจัดมาเป็นจานรวมน่ากินมาก แล้วก็สดกรอบอร่อย กินผักไปสามจานใหญ่มั้งคะ

 


กุ้งก็ตัวใหญ่ แต่ไม่แกะเปลือกให้ อันนี้เคืองมากค่ะ ขี้เกียจแกะ ทั้งไม่ชอบแกะกุ้ง แล้วก็ด้วยรูปแบบการกินที่เป็นแบบสุกี้ ไม่หมาะกับลวกแล้วต้องมาแกะ เลยไม่สั่งอีกค่ะ

 
ปลาหมึกเนื้อหนาสดเด้งค่ะ อร่อยมาก จานนี้ต้องสั่งแล้วสั่งอีก

 
เนื้อปลาก็สดค่ะ แต่จานต่อไปเด็ดกว่า

 
จานเนื้อที่ต้องเสียเงินเพิ่มมา 100++ เนื้อหั่นมาพอเหมาะกับการลวกกับซีอิ้วญี่ปุ่น คีบเนื้อไปแกว่งๆ ในซุปแล้วเอามาจิ้มไข่สดแทนน้ำจิ้ม อร่อยมากมาย น้ำซุปซีอิ้วญี่ปุ่นพอลวกๆ ไป จะเค็มมากกกกกกกก ต้องเรียกพนักงานเอาน้ำเปล่า หรือน้ำซุปมาเติมค่ะ หรืออยากเปลี่ยนไปชิมน้ำซุปแบบอื่นก็ได้นะคะ ภายใต้เงื่อนไข จ่ายเพิ่ม 30 บาท ต่อคนต่อหนึ่งน้ำซุป

ตบท้ายด้วยข้าวผัดกระเทียม รสชาติกลางๆ ค่ะ อาจจะเพราะเสริฟมาแบบไม่ร้อนก็เป็นได้
ข้าวผัดกระเทียม

ข้าวผัดกระเทียม

 


ร้านนี้เปิดวันจันทร์ - วันศุกร์ เฉพาะช่วงเย็น 16.00 น. - 23.00 น. ส่วนวันเสาร์ - วันอาทิตย์ : 11.30 น. - 23.00 น.
 
เมนูแนะนำ:  เนื้อวัว
 
วันที่ไปกิน: Sep 12, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿450

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
albatross11
191 รีวิว
Level 4
เกาอี??? ตกลง Oct 11, 2011   
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารอีสาน | ร้านอาหารทั่วไป | สุกี้ ชาบู | ส้มตำ | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม

ชื่อเรื่องไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ ต้องอ่านไปจนจบถึงจะรู้ว่าทำไมถึง เกาอี

หลานที่อยู่ต่างจังหวัดปิดเทอมเข้ามาเรียนพิเศษในกรุงเทพ ก็เลยชักชวนไปอ้วนไปกินปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ใกล้บ้านกันค่ะ

ถ้ามาจากทางสุรวงศ์ ถึงแยกมเหสักข์ให้เลี้ยวขวา แล้วชะลอรถชิดซ้ายช้าๆ นะคะ ประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ มีป้ายหน้าร้านชัดเจน มีที่จอดรถด้านในร้าน ทุ่มครึ่งจะมีนักร้องมาร้องเพลงด้วยค่ะ แต่งร้านได้โปล่งโล่งสบายเหมาะเป็นร้านอาหารปิ้งย่างมาก

 

 

ไปกันทั้งหมดสี่คน บุฟเฟ่ต์ทานได้ 2 ชั่วโมงคนละ 400 บาท ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะ มีวิธีปรุงสี่รูปแบบให้เลือกได้สองรูปแบบ แต่ต้องเป็นทีละรูปแบบนะคะ (กติกาค่อนข้างเยอะ ต้องเสียเวลาคุยกติกากับพนักงานอยู่ครู่ใหญ่เลยค่ะ) เลือกหนึ่งรูปแบบที่เห็นในรูปแรกก่อนเป็นอย่างแรก แล้วก็พลิกกลับมาสั่งอาหารที่รูปที่สอง (อยู่ด้านหลัง) มีขนมหวานเป็นน้ำแข็งไส ใส่ เฉาก๊วย มันเชื่อม ลูกชิด วุ้นมะพร้าว ราดน้ำแดง สั่งคนละกี่ถ้วยก็ได้

พวกเราเริ่มสั่งที่ซีแซ่บปิ้งย่างก่อน ตามคำแนะนำของพนักงาน อันนี้เป็นเตาย่างเกาหลีสไตล์ค่ะ เลือกรูปแบบได้แล้วของพวกนี้ก็จะเริ่มทยอยมาวางกองบนโต๊ะ

 
รูปที่ 1 เป็นน้ำจิ้มสามแบบ ซ้ายสุด น้ำจิ้มแจ่ว กลาง เปรี้ยวๆ หวานๆ ไม่ใช่น้ำจิ้มทะเล ไม่ใช่น้ำส้มขวาสุด โชยุหวานๆ แบบน้ำจิ้มปิ้งย่างทั่วไป
รูปที่ 2 เตาย่างหน้ากระทะเอียงลงไปที่จุดศูนย์กลางเพื่อให้น้ำมันไม่ไหลเยิ้มอยู่บนกระทะ แต่ให้ไหลลงที่แก้วที่รองอยู่แทน
รูปที่ 3 พริก มะนาว กระเทียม มาแบบใหม่สด สะอาดมาก
รูปที่ 4 น้ำจิ้มทั้งสามอย่างนั่นแหละค่ะ เอาวางให้เติมเองได้เลย สะดวกดีเหมือนกันวิธีนี้ แถมข้าวคั่วมาให้เติมน้ำใจชอบอีกด้วย

เอ้า เริ่มสั่งอาหารกันได้ซะที อาหารมาเร็วมากค่ะ พนักงานที่นี่ดีเด่นทุกคน คอยดูแลเอาใจใส่ ถามไถ่ทุกข์สุขตลอดเวลา ขนาดพักท้องชั่วคราวเอนหลังลงไป ยังเดินมาบอกว่า อิ่มแล้วเหรอค่ะ ยังๆ ยังอิ่มไม่ได้เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ ห้ามอิ่ม เอิ้ก งี้ก็มีด้วย สั่งกันไปเยอะมากกก ค่ะ เด็กกำลังโตนี่ กินเก่งได้ใจจริงๆ

 

 
เนื้อหั่นบางเกินไปค่ะ แทบจะไม่ได้รสชาติเนื้อ กุ้ง ปลาหมึก เห็ดเออรินจิอร่อยมาก เตาย่างแบบนี้ดีค่ะ ฉันชอบมากกว่าเตาถ่านที่ตระแกรงย่างไหม้เร็วมาก กินตระแกรงแบบนั้นทีไร กลัวมะเร็งมาเยือนทุกที

ปิ้งย่างแบบ เกา กันจนหนำใจ เราก็ได้เวลาเลือกรูปแบบที่สองแล้วค่ะ สุมหัวปรึกษาถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียดจริงจัง นานมากกว่าจะได้สรุปว่า เลี่ยนจากการปิ้งย่างมาพอแล้ว เราควรจะแซบบ้าง เลยเลือกแบบที่สองในเมนูค่ะ จิ้มจุ่มรสแซบ สุกี้อีสาน แหะแหะ นี่คือที่มาของชื่อเรื่องค่ะ เกาหลี+อีสาน = เกาอี

พนักงานยกเตาย่างออกไป เปลี่ยนหม้อใหม่มาแทน

 
หม้อใหม่นี่หน้าตาแปลกๆ ไม่เหมือนหม้อตามร้านอาหารเลย เหมือนหม้อในครัวมากกว่า หม้อเดือดแล้ว เราก็ร่วมใจกันใส่ผัก เหมือนกระหายผักกันมาก เนื้อไม่ค่อยได้สั่งค่ะ หม้อนี้ อิ่มกันแล้ว ต้มผักกินให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบห้าหมู่

ยังไม่ทันจะกินกันเสร็จ พนักงานก็มาเสนอขนมหวาน

พนักงานเดินโฉบมา “มีขนมหวานเป็นน้ำแข็งไส ใส่ เฉาก๊วย มันเชื่อม ลูกชิด วุ้นมะพร้าว ราดน้ำแดง หวานเย็นชื่นใจ รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ด้วยนะคะ”

ได้ยินดังนั้นทุกคนถือตะเกียบค้างอยู่กลางอากาศ คนกำลังอิ่ม เตาตรงหน้าก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที อยากจะผลักไสเตาออกไปให้ไกลๆ แล้วกินหวานเย็นบัดเดี๋ยวนาว แต่ด้วย spirit ที่เราทุกคนมีอยู่อย่างมากมาย ทำให้เราช่วยกันจัดการอาหารในหม้อจนเรียบร้อย แล้วจานนี้ที่รอคอยจะได้มาซะที

 
มันเชื่อมหวานไปหน่อย แต่เฉาก๊วย ลูกชิด วุ้นมะพร้าว อร่อยค่ะ

 
คุณนักร้องมาตอนทุ่มครึ่งตรงเลยค่ะ เหมือนรู้ว่าพวกเราจับเวลารอคอยมาตั้งแต่ทุ่มนึง เพราะถามพนักงานแล้วตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า นักร้องบางวันรถติดมากอาจจะไม่มา

อิ่มอร่อยนั่งฟังคุณนักร้องร้องเพลงอยู่ใกล้ชิดตรงหน้าเลยค่ะ ค่าอาหารคนละ 400 ค่าน้ำอีก 125 บาท ฉันว่าแพงไปหน่อยค่ะ
 
เมนูแนะนำ:  ซีแซ่บปิ้งย่าง,สุกี้ญี่ปุ่น
 
วันที่ไปกิน: Oct 07, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿400

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 3  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 4  |  
Price
 2

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
albatross11
191 รีวิว
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ร้านกาแฟ / ร้านชา | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง



เคยไปเยี่ยมชมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ (Rattanakosin Exhibition Hall) ข้างๆ โลหะปราสาทกันแล้วหรือยังคะ ถ้ายังอยากเชิญชวนให้หาเวลาไปกันให้ได้ค่ะ เป็นตึกสีเหลืองขาวติดถนนราชดำเนินถัดมาจากโลหะปราสาท หน้าวัดราชนัดดา

ที่นี่นำเสนอรายละเอียดเรื่องราวความเป็นมา รวมทั้งประวัติของย่านดังต่างๆ ของสมัยรัตนโกสินทร์ได้แบบ ไม่น่าเบื่อ ใช้เทคนิคหลากหลายรูปแบบประมาณดิสนีย์แลนด์ผสมลักษณะของ National Museum ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท (คุ้มแสนคุ้ม) ส่วนนักเรียนนักศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ฟรี ฟรี ฟรี ค่ะ

ดูเสร็จแล้วจะชวนไปนั่งกินไอติมที่ร้านกาแฟ

ทรู คอฟฟี่ อยู่ชั้นล่างของตัวตึก ถ้าหันหน้าเข้าหาตึก อยู่ขวามือสุดค่ะ เดินไปถึงหน้าร้านเจอป้ายนี้ดักอยู่ Buttermilk Waffle น่ากินจัง ต้องสั่งมาลองซะหน่อย สนนราคาคิดเป็น ซม. ย่อมาจากเซนติเมตรค่ะ ซม ละ 1 บาทถ้วน เพราะฉะนั้นเอา 30 x 1 = 30 บาท ฮ่าเอิ้ก (เขียนให้มันดูยุ่งยากไปงั้นอ่ะค่ะ) tongue

 
อร่อยดีค่ะ แป้งนุ่มชุ่มเนยไม่เสียชื่อ Buttermilk เสียแต่บางไปหน่อย แทบจะไม่มีแป้งให้เคี้ยว แบบอมๆ ละลายหายเข้าไปในคอเลยค่ะ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจต้องไปลองค่ะ mad

 
ตกแต่งร้านแบบผสมผสานฝาบ้านไม้แบบบ้านไทยโบราณ

ร้านนี้ขายไอติมด้วย เป็นไอติมเข้าคอนเซปท์อนุรักษ์ความเป็นไทย แค่เดินเข้าไปอ่านไอติมแต่ละรสก็อยากสั่งขึ้นมาทันที เดี๋ยวจะหาว่าฉันโกหก ถ่ายเมนูไอติมมาให้ดูกันชัดๆ เลยดีก่า

 
อ่านแล้วอยากสั่งรสอะไรคะ ?
ไอติมอร่อยๆ วางเรียงรายอยู่ในตู้รอให้ไปชิม

ไอติมอร่อยๆ วางเรียงรายอยู่ในตู้รอให้ไปชิม

 
น้องพนักงานใจดีมาก จริงๆ ไอติมสามก้อน หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Ice cream 3 scoops ของเรา tongue จะต้องเบียดอัดยัดเยียดกันมาในถ้วยเดียว น้องคงเห็นว่าหญิงอ้วนแบบพวกเราคงจะรับประทานร่วมกันลำบาก เลยเมตตาใส่มากระจัดกระจายดูหรูหรา (หรูหราในใจพวกเรา) แบบนี้ค่ะ

 
ทีจริงไอติมต้องอยู่ในถ้วยใหญ่ใบเดียวใบที่ใส่รสข้าวเหนียวมะม่วงนั่นแหละค่ะ

สามก้อนนี้ วิ่งแข่งกันมาในเรื่องรสชาติฉันให้ ข้าวเหนียวมะม่วงชนะเลิศ อืม รสชาติประมาณถ้าให้หลับตาชิมโดยไม่บอกว่านี่คือไอติมรสอะไร มั่นใจเลยค่ะว่าต้องทายถูก เพราะเหมือนเรากำลังกินข้าวเหนียวมะม่วงจริงๆ คนทำเก่งมาก ขอชมผ่าน openrice มา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ

ข้าวต้มมัด รสชาติไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ก็ทำออกมาได้ไม่น่าเกลียดค่ะ ผ่าน ของแปลกๆ แบบนี้พลาดไม่ได้ค่ะ ต้องชิม

ก้อนสุดท้าย ซอร์เบทยาคูลท์ปีโป้ ก้อนนี้ไม่รู้ใครเลือก เชอะ สะบัดบ๊อบ (ระดับความแรง 3 )ใส่คนเลือก ซ้ายที ขวาที ไม่เข้าคอนเซปท์ เปรี้ยวจิ๊ดสะใจสมชื่อ ใครเป็นสาวเปรี้ยวแนะนำก้อนนี้เลยค่ะ

 
กระดาษห่อรอบถ้วยไอติมแอบเก๋ค่ะ เป็นรูปใบตองกลัดด้วยไม้กลัด ให้บรรยากาศ ขนมไทยมากกกกก ขอชมคนออกแบบมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ( วันนี้ปากหวานไปหน่อย ถ้าเลี่ยนหยิบรสยาคูลท์ปีโป้ มากัดกินหนึ่งคำนะคะ)

 
ส่วนแก้วนี้ช็อกโกแลตปั่น ใส่วิปครีม แก้วละ 85 บาท หวานแล้วก็ไม่มีรสขมมาตัด ความเข้มข้นหามีไม่ ไม่ผ่านค่ะแก้วนี้

สำหรับแก้วน้ำเปล่าสองแก้วนี้ อย่าเพิ่งสงสัยนะคะ ว่าฉันถ่ายมาทำไม แก้วน้ำเปล่านี้สำคัญที่ตรงไหน และสำคัญอย่างไร จะเล่าให้ฟังค่ะ โอ๊ะ ๆๆๆๆ โดนหยิกค่ะ บอกว่าถ้าเล่าชาตินี้เราไม่ต้องมาพูดกันอีก แล้วก็ชี้หน้าคาดโทษฉันไว้ อ่า เอาไงดี งั้น เอาเป็นว่า ฉันถ่ายไว้เป็นที่ระลึกเหตุการณ์สำคัญที่ไม่ควรลืมที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็แล้วกันนะคะ แต่ถ้าใครอยากรู้เอียงหูมาค่ะ อิอิ (วอนซะแระเรา)
tongue

 
โต๊ะเก้าอี้ที่นั่งจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วน ส่วนตัว นั่งสบาย มีที่นั่งด้านนอกตึกด้วย แต่วันนี้ฝนตก เก้าอี้ด้านนอกก็เลยกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ (สรุป ถ่ายมาก็คงดูไม่ดี)
 
เมนูแนะนำ:  ไอศครีมขนมไทย,buttermilk Waffle
 
วันที่ไปกิน: Oct 08, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿100

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ