นักรีวิวร้านอาหาร

ช่วงนี้อากาศดี เหมาะกับการนัดพบปะพูดคุยพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ
แต่หากใครที่เบื่อ ร้านในเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน
ขอแนะนำอีกหนึ่งร้านบรรยากาศดีๆ เหมือนสังสรรค์อยู่ในสวนหลังบ้าน
ร้านนี้ชื่อสนุกๆว่า "สวนสนาน" ตั้งอยู่ในซอยจรัล 13 เข้ามาประมาณบางแวก 26 น่าจะได้
สามารถเดินทางได้ตามแผนที่ด้านล่างเลย การเดินทางง่ายมากๆร้านนี้เหมาะกับการมาฟังเพลงชิลๆ จิบเบียร์ และดูบอล
บรรยากาศดูสบายๆเหมือนกินข้าวอยู่ในสวนเลย
แถมร้านนี้ยังมีเจ้ามอมแมม สุนัขพันธ์ลาบราดอร์ตัวใหญ่ใจดี
มาคอยเดินทักทายลูกค้าอยู่เป็นประจำอีกด้วยสำหรับเมนูวันนี้มีอะไรบ้างมาดูกัน
เมนูแรก ไก่ทอดเกลือ (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ) ราคาอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 100 บาท
รสชาติไม่เค็มจนเกินไป ทอดออกมาพอดิบพอดี
ถือว่าผ่าน ชอบมากๆ อยากกินยันกระดูกเลยส่วน เมนูต่อมาเป็นเมนู ลาบหมูทอด
ราคาอยู่ที่ 100 บาทเช่นกัน
รสชาติจัดจ้านดี ทอดออกมาไม่แห้งจนเกินไปมาถึงจานนี้ เป็นเมนู ยำวุ้นเส้นรวมมิตร
ราคาประมาณ 100 บาทเช่นกัน
รสชาติออกมากล่มกล่อม จนต้องอุทานออกมาว่า อูมามิ
คือไม่ได้จัดจ้านจนเกินไป รสออกเปรี้ยวหวานกลางๆ คือดี๊ดีอ่ะเมนูสุดท้าย ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
ราคาประมาณ 100 บาทเช่นกัน
คือตอนยังไม่ได้คนนี่นึกว่าเนื้อจะน้อย
ที่ไหนได้ ทางร้านจัดมาเต็มชามเลย
(บอกเลยว่า อาหารร้านเค้า อร่อยทุกอย่างเลย)แม้ร้านนี้จะมีเมนูไม่เยอะมาก
แต่สามารถทำออกมาได้ดีทุกเมนู
สำหรับใครที่อยู่แถวนี้ ลองแวะมากันดูค่ะ
จิบเบียร์ ดูบอลสนุกๆ รับรองว่า สวนแห่งนี้จะทำให้คุณสนานแน่นอน

หากใครต้องการสัมผัสกับวิวสวยๆของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
หรือต้องการพาแฟนไปเดทในวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้
ขอแนะนำอีก 1 ร้านดีๆใจกลางกรุงเทพ
ร้านนี้เลย River Vibe Restaurant & Bar
ร้านตั้งอยู่ชั้น 8 ของเกลส์เฮ้าส์เกร๋ๆ
Riverview Guest House ตรงแถวๆตลาดน้อย เยาวราช
(หากใครขับรถไม่เก่งมาก อย่านำรถมานะคะ เพราะทางเข้าค่อนข้างแคบพอสมควร)ร้านนี้ต่อให้มาหลายครั้ง ก็ยังคงสับสนกับเส้นทางค่ะ
เพราะค่อนข้างวกวนนิดหน่อย
แต่หากได้มาแล้ว รับรองเลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน

วันนี้อาหารที่สั่งทั้งหมดมี 3 จานหลักๆนะคะ
เมนูแรก ยำวุ้นเส้นทะเล จานนี้อยู่ที่ประมาณ 150 บาท
รสชาติดี จัดจ้าน ของสดค่ะ
คือใจจริง อยากจะสั่งซ้ำเลยทีเดียวจานต่อมาเป็น ปลาทอดสมุนไพร
จานนี้ น่าจะอยู่ที่ 200 กว่าบาท
เนื้อปลาสดหั่นมาพอดีคำ
นำไปทอดกรอบ ราดด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้าน จานนี้ชนะเลิศค่ะ
(จานข้างๆเป็นข้าวผัดแฮมชีส แต่ตอนมาเสริฟ์ลืมถ่ายเพราะหิว 5555)เมนูสุดท้าย เต้าหู้ทรงเครื่อง
สั่งอาหารรสจัดมาเยอะ
จานนี้เลยขอจืดๆบ้าง
เต้าหู้ทอดมากรอบนอกนุ่มใน
ราดด้วยน้ำซอสรสชาติคล้ายๆกระเพาะปลา
อร่อยดีค่ะ จานนี้ราคาประมาณ 100 บาทเท่านั้นวันที่ไปเป็นคืนคริสมาสต์อีฟ
สาวโสดเลยชวนกันดื่มเครื่องดื่มเกร๋ๆ
รสชาติเปรี้ยวจี๊ด อย่าง มาการิต้า
อันนี้เป็นเหยือกนะคะ น่าจะอยู่ที่ 200 บาท
ทานได้หลายแก้วอยู่ถามว่าบรรยากาศตอนไหนสวย
เราขอตอบว่า กลางคืนค่ะ
เพราะจะได้เห็นวิวสงบๆของกรุงเทพ
และเรือที่แล่นผ่านสายน้ำ
ที่สำคัญ ประมาณ 22.00 - 23.00 ของทุกคืน
จะมีพลุให้เราดูฟรีๆอีกต่างหาก
บรรยากาศตามภาพเลยอีกหนึ่งมุมสงบของทางร้าน คือตามภาพด้านล่างเลย
หากวันไหน แขกไม่เยอะนี่
เราจะได้เห็นภาพ ชาวต่างชาติจิบเบียร์
เหยียดขา นอนสบายๆกันตรงมุมนี้ประจำร้านนี้น่ามามากจริงๆค่ะ
ลองมาทานอาหารและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆกันดูนะคะ
อ้อ ขอเตือนนิดหนึ่ง
มาที่นี่ ถ้าเป็นไปได้ อย่าชำระด้วยบัตรเครดิตนะ
เพราะเนื่องจากอยู่ชั้นบน อาจทำให้สัญญานอินเตอร์เน็ตขัดข้อง
ตัดบัตรไม่ได้ ไรงี้ ยังไงกดเงินกันมาก่อน
ขอรับรองว่าร้านนี้เพอเฟ็คมากนะ พูดเลยยยย!!!

วันก่อนครับ...
ไปทำงานแถวเจริญกรุง แล้วคิดขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน
ไม่อยากไปที่ที่คนพลุกพล่าน เลยคิดถึงร้านนี้ขึ้นมา

ร้านนี่ชื่อว่า Eight O'Clock ตั้งอยู่ถนนตก
ร้านอาหารและกาแฟ Homemade น่ารัก สงบ ร่มรื่น
เหมาะแก่การผู้ที่ต้องการความสงบอย่างแท้จริง
โดยสามารถเดินทางมาตามแผนที่ด้านล่างได้เลยจ้า
(แผนที่นำมาจาก FB ของร้านนะจ๊ะ)เข้ามาภายในร้าน
ร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เป็นหลัก
คลาสสิคและดูดีมากๆเลยเมื่อได้โต๊ะ เราก็สามารถเดินไปตรงเคาว์เตอร์
เพื่อเลือกขนม เครื่องดื่มหรือสั่งอาหารได้จากตรงนี้ได้เลยจ้าวันนั้น ไม่ค่อยอยากของหวานเท่าไหร่
เพราะหิวข้าวมากกว่า เลยสั่ง
ไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบราดข้าว
จานนี้ ราคาอยู่ที่ไม่เกิน 60 บาทนะคะ(ถ้าจำไม่ผิด)
รสชาติถือว่าใช้ได้ค่ะ พอดีๆ
ใช้ของดีเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังสั่ง กุ้งพันเบคอนมาทานด้วย
กุ้งตัวเล็กไปหน่อย แต่ก็สมราคานะ
เพราะน่าจะไม่เกิน 50 บาทเช่นกันร้านนี้ นอกจากจะมีเครื่องดื่ม อาหาร และขนมเค้ก
ยังมีของจุ๊กจิ๊กๆน่ารักๆจำหน่ายด้วยนะ
ราคาก็ไม่แพงเว่อร์ด้วยพูดเลย คราวหน้า ถ้ามาแถวนี้
จะลองมาเทสกาแฟและขนมบ้าง
ลองดูๆ ร้านนี้น่ารักมากจริงๆนะ

ห่างหายไปซะนาน
เพราะงานยุ่งเกิน จนเวลาจะทานอะไรแต่ละที
รีบจนลืม take a photo เลย

แต่วันนี้พอจะมีเวลาไปแวะหาขนมทาน
ก็ไม่พลาดที่จะเก็บข้อมูลมาเขียนรีวิวด้วยใจรัก
พอดีวันนี้ ผ่านมาแถวถนนราชพฤกษ์
เลยไม่พลาดที่จะต้องมาลองทานขนม
ที่ร้าน THINK cafe ที่อยู่ในโครงการเกร๋ๆ
The Bloc ที่มีจุดเด่นตรงที่
โครงการนี้ นำตู้คอนเทนเนอร์มาดีไซน์เป็นสัดส่วน
ตกแต่งร้านอาหารและร้านขนมได้อย่างลงตัว
โดยการเดินทาง สามารถมาตามถนนราชพฤกษ์
พอถึง The Circle แล้ว ให้กลับรถใต้สะพานค่ะ
โครงการจะอยู่ถัดจากร้านอาหารชื่อปลาอยู่เย็นนะคะ

ด้านหน้าโครงการ The Bloc ค่ะ
โครงการนี้จะมีร้านไม่เยอะมากนะคะ
นับๆดูประมาณ 3-4 ร้านเองภาพจากภายในร้าน
ที่จอดรถของโครงการมีไม่มากนักค่ะ
น่าจะประมาณ 50 คันได้เข้ามาภายในร้าน
เราสามารถเลือกเมนูได้จากเคาเตอร์เลย
ในตู้จะบรรจุขนมและราคาของทางร้านไว้บางส่วนโดยทั่วไป ไม่รู้ทำไม เราเองจึงรู้สึกว่า
ทางร้านใช้โทนสีและบรรยากาศ
ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ซึ่งเราก็ชอบนะ
(วันนี้มาคนเดียว เลยไม่ได้เดินดูบรรยากาศด้านนอกเลย)วันนี้เราสั่งทั้งหมด 2 เมนูตามสเต็ป
ขนม 1 เครื่องดื่ม 1
กินมากกว่านี้ นอกจากพนักงานจะตกใจ
กระเป๋าตังค์เราก็จะแห้งด้วย
เพราะราคาที่นี่ถือว่าแพงใช้ได้เลยค่ะ

สำหรับวันนี้ เมนูที่สั่ง ได้แก่
Chocolate pot เนื้อเค้กจะคล้ายๆกับชอคโกแลตลาวา
แต่ไม่ชุ่มฉ่ำเท่า แต่ความอร่อยมันอยู่ที่ความกรุบกรอบที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเค้กค่ะ
เมนูนี้เสริฟ์พร้อมพุดดิ้งชาเย็น(อันนี้ค่อนข้างจืดดด) และไอติมวานิลลา
กินพร้อมกัน ก็ถือว่าผ่านค่ะ ราคาเมนูนี้อยู่ที่ 175 บาทส่วนเครื่องดื่ม วันนี้สั่งเป็น
Grinch Soda ราคา 115 บาท
เมนูนี้ขอยกให้เป็นเครื่องดื่มของคนที่ชอบทานมินต์ค่ะ
เพราะเมื่อทานแล้ว ความเย็นจะคงอยู่กับเราไปสักระยะเลย
ในแก้วจะประกอบด้วยไอติมวานิลลา 1 ลูก
ซึ่งบอกเลยว่า กินไม่หมดดดด
(อันที่จริง เราว่า ไม่มีไอติม น่าจะพอดีกว่า)
รสชาติก็เหมือนอิตาเลี่ยนโซดาทั่วไปค่ะ
แต่โดยรวมค่อนข้างชอบเลยเอ้าๆๆ ถ่ายภาพร่วมกันหน่อยเสร็จสรรพ วันนี้ก็หมดตังค์ไปทั้งสิ้น สิริรวม 290 บาท
ถือว่าพอรับได้ เพราะไม่ได้ทานแบบนี้ทุกวันนี่หน่า
หากใครอยู่แถวนี้ อยากสัมผัสขนมน่าตาน่ารักก็ลองมากันดูนะจ๊ะ ^^

ช่วงนี้วุ่นๆ ไม่ค่อยมีเวลาเปิดคอม
เลยห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนาน

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทีมงานจาก OpenRice
ส่งที่ร่อนบัตรเชิญไปร่วมก๊วนชวนกิน
ซึ่งบอกเลย ว่าไม่ผิดหวังกับกิจกรรมนี้จริงๆ
เพราะนอกจากจะได้มาชิมขนมอร่อยๆแล้ว
ยังมี Workshop แต่งหน้าโดซองด้วย

สำหรับก๊วนครั้งนี้ จัดขึ้นที่ร้าน Chikalicious Dessert Bar
ที่ CENTRAL EMBASSY สามารถเดินทางได้สะดวก
อยู่ใกล้ๆกับ BTS สถานีชิดลม ประมาณนั้น

ที่นี่ส่วนมีทีเด็ด มีความน่าสนใจอยู่ที่
ขนมจะเสริฟ์เป็นคอร์ส ซึ่งจะประกอบด้วย 3 อย่าง ด้วยราคาเพียง 400 บาท
ส่วนบรรยากาศของร้าน เป็นเหมือนร้านเบเกอรี่ในสไตล์ Dessert Bar
การตกแต่งน่ารัก ในขณะเดียวกัน เราสามารถพูดคุยกับเชฟระหว่างรออาหาร
หรือสอบถามข้อมูลหรือคำแนะนำต่างๆได้อย่างอบอุ่นเลยทีเดียว
มาๆมาดูกิจกรรมครั้งนี้กันเลย
มาถึงทีมงานและเจ้าหน้าที่ก็รีบจัดแจงเมนูมาให้เลือกเลยจ้าหลังจากดูเมนู อย่างแรกที่เลือก
ขอเลือกเป็นชาคาโมมาย
เพราะวันนี้รถติดมาก เลยอยากได้ความหอม สดชื่นมาดับกระหายก่อน
(ฟังแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวสินะ 5555)จากนั้นก็เริ่มเข้ากิจกรรม โดยทีมงานได้แนะนำเชฟของร้าน
และจุดประสงค์ ประวัติต่างๆของทางร้าน
ซึ่งบอกเลยว่า เชฟที่นี่ สวยมากกกกกกกกก
สวยพอๆกับอาหารที่ประดิษฐ์ออกมาเลยอ่ะเชฟพูดจบก็ลงมือตกแต่งขนมให้เหล่าสมาชิก OpenRice ได้ชิมกัน
ถ้วยแรก เป็นไอศครีมเรียกน้ำย่อยจ้า
เป็นไอติมมะพร้าวหอมมมากกกก บวกกะคาราเมลหวานๆ
ราดด้วยคาไทฟี่กรอบๆ สุดติ่งกระดิ่งแมวมากจริงๆ ช๊อบบบชอบบบบบจากนั้นไม่นาน ขนมจานใหญ่ก็ยกมาเสริฟ์
วันนี้ เราสั่งเป็น BANANA TARTARE ON CRISPY KATAIFI
ให้ตายเถอะ จานนี้เป็นเมนูที่รวมกันกันที่รสชาติลงตัวมากกกกก
ด้านล่างเป็นคาไทฟี่กรอบๆอัดกันแน่นๆ รสชาติหวานๆ
โรยหน้าด้วยกล้วยหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยม หอมๆ
ส่วนไอศครีมสีขาวที่เห็นเป็น...กาแฟนะนั่น
และสีดำเป็น ดาร์กช็อคโกแลตพุดดิ้ง
โอ้ยยยยยยยย ไม่รู้จะโอดโอยยเป็นภาษาไหนดี
รู้แค่ว่า.....เลิฟมากกก ไม่นอกใจด้วยยยยเอาจริงๆ เราควรจบตั้งแต่จานนี้นะ
แต่อดไม่ได้จริงๆที่จะขอชิมของเพื่อนข้างๆบ้าง หุหุ
จานนี้เป็นทาร์ตช๊อคโกแลต
ซึ่งหากใครเป็นสายนี้ บอกเลยว่า ห้ามพลาดนะแจ๊ะ
จานนี้เสริฟพร้อมไอติมพริกไทย
มันมีกลิ่นหอมของพริกไทยที่เด่นมากแต่รสไม่เผ็ดนะ
ส่วนซอสออกรสเปรี้ยวอมหวานต่อมาๆมันคือภาพที่เราเห็นบ่อยๆในช่วงนี้
แต่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
จนมาอ๋อวันนี้นี่เอง
มันคือ ชีสเค้กเสริฟ์มาพร้อมน้ำแข็ง
ให้อารมณ์เหน็บหนาวเหมือนอยู่ในวังน้ำแข็งของเอลซ่า
ลองทานดูรสสัมผัสนุ่มมากกกกเหมือนทานก้อนเมฆเลยจริงๆ
แต่จานนี้ เราไม่ค่อยตาค้างมาก
เพราะเราชอบรสหวานๆมากกว่า จานนี้จะออกแนวรสเรียบๆ
แต่ตาค้างเพราะความนุ่มมากกว่าจานนี้ก็เด็ดนะ มันคือ
WHITE CHOCOLATE MOUSSE ON CANTALOUPE
WITH LANCE TUILE AND FREASH MINT ICE CREAM
ยาวอ่ะดิ อื้มมม ยาวมากกกก นี่ก็ก๊อบมาชื่อมาจากเมนูเลย
เอาเข้าจริง จานนี้คือ ไวท์ช็อคโกแลตมูส ส่วนด้านล่างเป็นแคนตาลูป
เสริฟ์กับไอศกรีมมินท์ ด้วยความที่ชอบรสมินท์อยู่แล้ว เลยชอบเป็นพิเศษจ้ะหลังจากชิมของเพื่อนข้างๆจนออกแนวเกรงใจ
สักพักทางร้าน ก็ยกจานสุดท้ายมาให้อีก
จานนี้ดูธรรมดามาก เหมือนขนมหวานทั่วไป
แต่ให้ขอตายอีกรอบ มันอร่อยมากอ่ะแกรรรรร
ชิ้นที่ 1 มาร์ชเมลโลมะพร้าว
ชิ้นที่ 2 คล้ายๆคุ๊กกี้ช็อกโกแลต (เรียกไม่ถูก จำชื่อไม่ได้จริงๆง่ะ)
ชิ้นที่ 3 เค้กกล้วย (บอกเลยนะว่า ปกติไม่กินเค้กกล้วยหอม แต่ของที่นี่ดีมาก อยากกินอีก 7-8 ชิ้น)โอ้ยยยยย ฟินนนนนน
แค่นี้ยังไม่พอ
ทางร้านยังมี workshop แต่งหน้าขนม โดซองต์ อีกนะ
อันนี้ฝีมือเราเองอ่ะ เป็นรสช๊อคโกแลตทั้งตัวเนื้อโดซองต์และครีมเลยทางร้านมีโดซองต์จำหน่ายด้วยนะ ราคาชิ้นละ 95 บาท
มีให้เลือก 6 รส โดยมีรสประจำ 5 รส ส่วนอีก 1 รสจะเปลี่ยนไปทุกเดือนจ้า
(อันนี้น่ากินกว่าเราแต่งหน้าเองเยอะหลายขุมอ่ะพูดเลย 55555)สำหรับคอขนมหวาน ลองไปกันดูจ้า
แต่แนะนำก่อนนะว่าร้านนี้ไม่เน้นอิ่ม เน้นฟินกับรสชาติหวานถูกปากเท่านั้นจ้าาาาา