นักรีวิวร้านอาหาร

ผ่านพิกัดร้านบ่อยพอสมควร แต่ไม่เคยสังเกตเลยว่าตึกนี้คือร้านอาหาร ... แต่พอมีควรชวนไปทานแล้วส่งแผนที่มาให้ถึงกับร้อง อ่อ!!! ออกมาทีเดียว- การเดินทาง -
หากมาจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าลาดพร้าว ถึงแยกห้วยขวาง (ตรงแยกที่มีศาลพระพิฆเนศวรค่ะ) เราก็เลี้ยวขวาเลย วิ่งตรงตามทางไปจนสุดจะเจอทางแยก เราก็เลี้ยวขวา เลยสำนักงานเขตห้วยขวางไปหน่อย ทางซ้ายมือจะเจอซอย
ประชาอุทิศ 1 ค่ะ .... ร้านอยู่หน้าซอยพอดิบพอดี ถ้าใครขับรถไปก็จอดกันได้หน้าร้านเลยค่ะ หรือในซอยก็มีที่จอดรถได้อีกนิดหน่อยค่ะ- บรรยากาศ -
ร้านเป็นลักษณะของตึกแถวหลายชั้น แต่ใช้เฉพาะชั้นล่างแต่งตกด้วยบรรยากาศจีนแบบง่ายๆ เป็นร้านนี้ "จุ้ยซิม" ร้านจีนอาหารยูนนาน ... โต๊ะกลมหลายตัวถูกปูด้วยผ้าปูสีแดงทำให้ได้บรรยากาศจีนๆ แต่โต๊ะนี่นั่งแบบสบายๆก็ได้สัก 8 ที่นั่งค่ะ ถ้านั่ง 10 คนนี่มีเบียดกันเลย- อาหารการกิน -
ยอมรับก่อนเลยค่ะว่าแยกอาหารจีนแต่ละประเภทไม่ได้ จีนแบบไหนต่างกันยังงัย รู้แต่ว่านี้แหล่ะอาหารจีน .... ส่วนอาหารแต่ละอย่างที่ได้ลองทานเป็นยังงัย ขอแนะนำเป็นรายเมนูเลยนะคะ โอซุ่นผัดหมูแฮม (150 บาท) : โอซุ่นน่าจะเป็นชื่อผักชนิดนี้ รสชาติคล้ายแตงค่ะ ผัดกับแฮมสไตล์ยูนนาน จะได้รสชาติผัดผักที่เค็มหน่อยๆ หวานจากตัวผักเอง ส่วนแฮมแนะนำว่าอย่าไปทานเลย เดี๋ยวไตจะพังเอาซะก่อน (เพราะมันเค็มอ่ะคะ) เกี๊ยวน้ำ (100 บาท) : หน้าตาเหมือนเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่นค่ะ แต่ว่าอันนี้จะเอาไปนึ่งทานกับซีอิ๊ว เนื้อด้านในเป็นหมูสับกับผักกุยช่าย แล้วก็ปรุงรส รสชาติอร่อยใช้ได้ ส่วนที่เค้าเรียกเกี๊ยวน้ำเพราะเอาไปนึ่งกับน้ำ ไม่ใช่ว่ามีน้ำซุปนะคะ เกี๊ยวทอด (100 บาท) : รสชาติไส้เป็นแบบเดียวกับเกี๊ยวน้ำเลยค่ะ แต่ว่าเอาไปทอดให้ด้านนอกเกรียมหน่อยๆ ทานกับซีอิ๊วเหมือนกัน เค้ายังทอดไม่กรอบมาก แต่ว่าก็พอได้อยู่ แป้งไม่หนาไม่เหนียวค่ะ ผัดถั่วแขก (150 บาท) : ถั่วแขกนำไปผัดกับหมูสับและกระเทียม รสชาติอร่อยเลยค่ะ เค็มนิดๆ แต่ว่าถั่วแขกผัดนิ่มไปหน่อย ถ้าแบบแฉ่เดียวแล้วผักยังกรอบ อร่อยมากเลยจานนี้ แพะตุ๋น : เมนูนี้ผู้ใหญ่สั่งแบบเราไม่ได้เต็มใจ แล้วก็ต้องเสียใจเพราะสงสัยแพะจะแก่เกินกิน เนื้อเหนียวเชียว จานนี้ไม่ผ่านในความรู้สึกเราเลยค่ะ หมั่นโถวทอด (120 บาท) : แป้งหมั่นโถวเนื้อแป้งแน่นหนึบ นำไปทอด แล้วทานคู่กับนมข้น อารมณ์คล้ายกับเวลาทานปาท่องโก๋นมข้นเลยค่ะ ขาหมูหมั่นโถว (400 บาท) : เมนูนี้มาในหม้อดิน ยกขากันมาเลยค่ะ หนังมาเป็นแผ่นกรึบๆเลยค่ะ ทานคู่กับหมั่นโถว จิ้มกับน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูด้วย แต่หน้าตาน้ำจิ้มตอนแรกมองผ่านๆเรานึกว่าแจ่ว 555+ แต่รสชาติเค็มหวานกำลังอร่อยเลยค่ะ เคราหยก (220 บาท) : หมูสามชั้นนำไปนึ่งกับผักคล้ายผักดองค่ะ แต่ว่าส่วนตัวเราไม่ทานหมูสามชั้น จานนี้เลยอธิบายรสชาติไม่ได้น๊า แต่ดูมันอยู่ ขอบายดีกว่า ออเดิร์ฟจีน (400 บาท) : ออเดิร์ฟที่เคยเจอมีแต่ร้อน-เย็น แต่นี่มาแบบจีน มีแต่เครื่องในหมูเลยค่ะ ... ไส้ กระเพาะ เซี่ยงจี้ ลิ้น หู จานนี้ทานกับน้ำจิ้มแบบเดียวกับขาหมูเลยค่ะ แต่เครื่องในสุกแบบสุกไปหน่อย (เราว่านะคะ) มันเลยไม่ค่อยกรุบกรอบเท่าไหร่ จานนี้เลยเป็นอีกจานที่ยังไม่ถูกปากเราเท่าไหร่ กะหล่ำปลีผัดพริก (จานนี้ไม่ทราบราคานะคะ) : ตัดเลี่ยนหลังผ่านหมูมาหลายเมนู เดอะแก็งค์นี้เลยขอผักอีกสักจานมาปิดท้ายมื้อนี้ ด้วยกะหล่ำปลีผัดมาแบบยังกรอบ รสชาติหวานจากผักยังอยู่แบบเต็มที่ เค็มนิดๆ แล้วก็มีรสเผ็ดจากพริกแห้งที่ผัดมาด้วยหน่อยๆ ทำให้จานนี้ทานได้แบบทานเล่นได้ค่ะ อร่อยสุด ๆ

- การบริการ -
ส่วนการบริการ พนักงานมีน้อยอยู่ค่ะ เลยอาจจะมีช้าไปบ้างเวลาต้องการอะไรเพิ่ม แต่อาหารไม่ช้าค่ะ .... คิดเงินนี่ยิ่งไม่ช้าใหญ่เลย (ราคาอาหารถือว่าแพงอยู่ กับข้าวแต่ละจานก็มีหลักร้อยขึ้นทุกอย่างเลยค่ะ) พนักงานที่นี่ถ้าเราคุยภาษาจีนกลางได้ น่าจะเข้าใจกันได้รวดเร็วกว่าภาษาไทยเยอะค่ะ 

หลังจากคิดเงินแล้ว ทางร้านจะนำหมากฝรั่งมาให้เท่ากับจำนวนคนที่มาในโต๊ะเลยค่ะ ... เคี้ยวดับกลิ่นอาหารกันสักนิดก่อนออกจากร้าน เพราะถ้ามากันคงจัดกันเต็มทุกคนแน่ๆ 

ถ้านึกเป็ดย่างอร่อย ๆ หลายคนต้องนึกถึง "ภัตตารพูลสิน" ภัตตาคารเก่าแก่ย่านวิสุทธกษัตริย์ที่เปิดมากว่า 50 ปีแล้ว จุดเด่นของร้านอยู่ที่อาหารราคาไม่แพง ของขึ้นชื้ออย่างเป็ดย่างที่ใคร ๆ มา เป็นต้องสั่งทุกโต๊ะ เป็ดย่างหนังกรอบที่นี่จะเสิร์ฟพร้อมผักกาดดองแบบเปรี้ยว เพื่อตัดความเลี่ยน ข้อดีอีกข้อของร้านที่เราประทับใจมาก ๆ คืออาหารมี 3 ขนาด 3 ราคา ทำให้เราสามารถสั่งอาหารให้เหมาะสมกับจำนวนคนได้ หรือถ้ามากันหลาย ๆ คน เราสามารถเลือกขนาดจานเพื่อให้สั่งอาหารได้หลายเมนูมากขึ้น ไม่เหมือนบางร้านที่มาแบบขนาดใหญ่ ตัดโอกาสที่จะสั่งได้หลากหลายเมนู เพราะอิ่มกันซะก่อนร้านอยู่ด้านข้างวัดตรีทศเทพ ถ้าใครขับรถมาสามารถจอดที่จอดรถในวัดได้เลย สังเกตว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นแขกที่มาร่วมงานศพของวัดตรีทศเทพแล้วมาต่อที่ร้านร้านเป็นภัตตาคารแบบห้องแอร์มีการปรับปรุงใหม่ดูสะอาดตา ผนังเป็นสีเขียว โต๊ะกลม ๆ แบบจีน พนักงานของร้านบางคนก็เป็นพนักงานรุ่นเก๋าที่อยู่คู่ภัตตาคารมานานเลือกสั่งเมนูแรกไม่พลาดเป็ดย่าง จานกลาง (150 บาท) เป็ดย่างเนื้อนุ่ม หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมผักกาดดองรสเปรี้ยวเพื่อตัดเลี่ยน อร่อยสมเป็นเมนูขึ้นชื่อเค้าหล่ะหมี่ผัดฮ่องกง จานกลาง (120 บาท) หมี่ผัดคู่กับแฮมและกุ้งสด ผัดมาได้หอมกลิ่นกระทะ รสจัดออกเค็มไปหน่อยค่ะ เราว่าถ้าลดความเค็มสักนิดน่าจะเฟอร์เฟคค่ะผัดโหง่วก้วย จานกลาง (115 บาท) อีกเมนูขึ้นชื่อของทางร้านค่ะ เนื่อไก่ผัดกับเผือก แปะก้วย พรุทราจีน เม็ดมะม่วงหิมพานต์และพริกแห้ง ผัดมาได้หอมและรสชาติดี เสียดายเนื้อไก่มีน้อย และรสแปลก ๆ นิดนึงค่ะยำปลาหมึกจานเล็ก (75 บาท) ปลาหมึกลวกมาได้สดดี แต่น้ำยำรสออกไปทางเค็มมาก ๆ เปรี้ยวน้อยไปหน่อย น่าเสียดายนะคะ วัตถุดิบดีแล้ว รสชาติยังไม่ค่อยลงตัวเต้าหู้น้ำแดง เต้าหู้ไข่ทอดผัดกับน้ำซอสแบบเหนียว ๆ หอมอร่อย และรสชาติดีมาก ๆ ค่ะจานนี้ข้าวผัดหมูแดงจานเล็ก (55 บาท) ข้าวผัดจานเล็กเหมาะสำหรับ 1 คน ผัดมาได้หอมดี แต่รสออกจืด ๆ ไปสักหน่อยคะน้าหมูย่าง คะน้าผัดน้ำมันหอยกับหมูสามชั้นย่าง แต่ส่วนตัวเราคิดว่าคล้ายหมูกรอบมากค่ะ เพราะย่างมาได้กรอบมาก เนื้อหมูชิ้นหนา ผักสด หอมอร่อยรสชาติดี เมนูนี้ค่อยเรียกคะแนนคืนมาได้หน่อยโกยซีหมี่ไก่ จานกลาง (120 บาท) จานนี้มาแล้วสมาชิกผิดหวังกันค่ะ เพราะเคยเป็นเมนูเด็ดของร้านนี้ที่สมาชิกเรามาทีไรไม่เคยผิดหวัง ยังสงสัยว่าเปลี่ยนพ่อครัวหรือป่าว รสชาติและความหอมดรอปลงไปเยอะเลยไก่ผัดเม็ดมะม่วง จานกลาง (115 บาท) จานนี้เกือบจะดีแล้วเชียวเพราะผัดมาได้รสชาติดี ผัดมากับเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบะพริกแห้ง ตกม้าตายที่พระเอกอย่างเนื้อไก่ที่รมชาติและกลิ่นแปลก ๆ ไม่คุ้นเคยปิดท้ายด้วยของหวานอย่างลิ้นจี่เย็น (25 บาท) หรือลิ้นจี่กระป๋องนี่เองน่าเสียดายนะคะ ร้านมีจุดเด่นและข้อดีมากมายที่ราคา และความหลากหลายของขนาด หลายเมนูยังคงความอร่อยอยู่ แต่บางเมนูก็ทำให้แฟนประจำผิดหวังกันไปบ้าง ทางร้านอาจต้องระวังการควบคุมคุณภาพและรสชาติให้สม่ำเสมอนะคะ เพื่อไม่ให้ลูกค้ามาแล้วผิดหวัง

วันนี้จะพามาทานอาหารแถว ๆ สมุทรสาครกันอีกซักร้าน ร้านนี้เป็นร้านอาหารตามสั่ง บรรยากาศแบบบ้าน ๆ แต่รสชาติ ราคา ปริมาณคุ้มค่ามาก ๆ จ้า พิกัดร้านอยู่เยื้อง ๆ วัดโคกขาม ขับเลยวัดมาหน่อย มองด้านบนจะเห็นป้ายเขียว ๆ เขียนว่าทางไปจุดชมโลมา เลยป้ายนั้นนิดเดียวมองฝั่งตรงข้ามไว้ แถว ๆ โค้ง ร้านอยู่ขวามือมีที่จอดรถประมาณ 4-5 คัน ถ้าที่จอดเต็มก็จอดริมถนนเอาค่ะบรรยากาศร้านแบบเปิดโล่ง มีทีวี มีน้ำดื่ม+น้ำแข็งบริการฟรี (บริการตัวเอง) ส่วนใครอยากดื่มน้ำเปล่าเป็นขวดหรือน้ำอัดลมทางร้านก็มีจำหน่ายค่ะเมนูอาหารตามสั่ง ก็เหมือนร้านตามสั่งทั่ว ๆ ไปมีข้าวผัด ผัดกระเพรา ผัดพริกแกง ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่จานละ 35 บ.ซุ้มข้าง ๆ กันเป็นอาหารอีสานและขนมจีนโดยมากเราจะมาทานอาหารตามสั่งกันนะ กระเพราหมูชิ้นมาในจานใหญ่ ๆ ซึ่งไม่ได้ใหญ่แค่จาน แต่ปริมาณของอาหารที่ให้มาก็เยอะมาก ๆ ด้วยจ้า จานนี้ 35 บ.เท่านั้นกระเพรารวมมิตร 40 บ. เพิ่มไข่ดาว 10 บ. จานนี้ 50 บ.ค่ะคู้ณ ดูกุ้งดูปลาหมึกสิใส่มาไม่ยั้งผัดซีอิ๊วหมู บอกเค้าขอผักเยอะ ๆ ใส่มาเยอะจริง ๆ ราคาก็ 40 บ.เท่านั้นสุกี้น้ำใส่ชามรึใส่อ่างมาเนี่ย ชามใหญ่มาก เครื่องตูมสุด ๆ 50 บ.เองจ๊ะบางทีก็สั่งแบบเป็นกับข้าวมาทานรวม ๆ กัน ผัดผักบุ้งหมูกรอบสั่งแบบเป็นกับข้าวไม่แน่ใจราคานะ น่าจะ 50 - 60 มั้งมีครั้งนึงเคยสั่งส้มตำปูปลาร้ามาทาน ปลาร้ากลิ่นแรงไปหน่อย ส่วนรสเผ็ดนี่กำลังดี ราคาก็เบา ๆ 30 บ.เท่านั้นโดยรวมอาหารตามสั่งร้านนี้รสชาติใช้ได้นะ ที่ชอบสั่งบ่อย ๆ ก็กระเพรา , ต้มยำ , ผัดพริกแกงนี่หล่ะ
ผัดซีอิ๊วเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่กลิ่นซีอิ๊วแรงไป ราคาและปริมาณก็น่าคบหามากกกก
ราคาไม่แพงแล้วยังให้เยอะอีก ไม่ฝากท้องร้านนี้ก็ไม่รู้จะฝากท้องร้านไหนแล้วเนอะ
ใครอยู่ใกล้แถวนี้แวะมาลองทานได้ แต่เราไม่รู้ว่าเปิดกี่โมงถึงกี่โมงนะสนใจก็โทรสอบถามกับทางร้านดูจ้า
ร้านจานใหญ่ (จัดเต็ม) : 082-3638949

Volti ร้านอาหารอิตาเลียนในโรงแรม Shangri-la Bangkok ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนแบบ authentic จริงๆครับ เพราะทั้งตัวเชฟ สูตรอาหาร วัตถุดิบนั้นมาจากต้นตำรับอย่างอิตาลีโดยตรงครับ ตัวห้องอาหารแห่งนี้มีรางวัลการันตีว่าเป็นถึง Bangkok Best Dining & Entertainment Magazine ถึง 13 ปีซ้อนมาแล้ว ดังนั้นเชื่อมือทางร้านได้เลยครับ
จากประสบการณ์ในการทานของผมวันนี้ต้องบอกเลยว่าประทับใจมากในทุกๆส่วนของทางร้านจนแบบไม่ให้คะแนนเต็มไม่ได้จริงๆครับ เพราะบรรยากาศร้านที่อยู่ในโรงแรมแชงนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมอยู่แล้ว ตัวอาหารนั้นก็อร่อยทุกเมนูจริงๆ ยิ่งได้การบริการของพนักงานที่ดีเยี่ยมมากๆเข้ามาด้วยอีก ไม่มีอะไรจะต้องติจริงๆครับ 
[วิธีการเดินทาง]
ห้องอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Lobby Level ในโรงแรมแชงกรีลากรุงเทพในย่านเจริญกรุง บางรักครับ เข้ามาในล็อบบี้ของทางโรงแรมแล้วให้เดินเลี้ยวซ้ายทางที่จะไปห้องบอลรูมก็จะทางเข้าร้านนี้อยู่ด้านหน้าเลยครับ
วิธีการเดินทางมายังที่โรงแรมนี้สามารถขับรถมาได้ครับ ตัวโรงแรมอยู่ในย่านบางรักเลยโรบินสันมานิดเดียวเอง หน้าซอยมีป้ายใหญ่บอกทางชัดเจน เข้าซอยมานิดเดียวก็ถึงครับ ถ้าใครไม่ขับรถมาก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาที่สถานีสะพานตากสินแล้วนั่งแท็กซี่ต่อเข้ามาหรือจะเดินเข้ามาก็ได้ครับ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีได้ครับ
[บรรยากาศ/การบริการ]
ห้องอาหารแห่งนี้เป็นห้องอาหารในโรงแรม ดังนั้นในเรื่องบรรยากาศหายห่วงครับ เรียบหรู สวยงาม ใหญ่โตมากมาย ตัวห้องอาหารนั้นมีสองชั้นครับ มีทั้งโซน indoor แล้วก็ outdoor ในโซน indoor นั้นจะเป็นห้องแอร์ มีสองชั้น โต๊ะด้านในนั้นเรียบหรูสวยงาม อุปกรณ์ในการทานทุกอย่างมีวางให้พร้อมเรียบร้อย ถ้าใครอยากนั่งโซน outdoor ก็ได้เช่นกันครับเพราะว่าโซน outdoor นั้นจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำของทางโรงแรม นั่งทานอาหารไปชมวิวสระว่ายน้ำไปได้เพลินๆเลยครับ
ห้องอาหารแห่งนี้จะเข้ามาทานต้องแต่งตัว Smart Casual นะครับ ขาสั้นรองเท้าแตะนี่เข้าไม่ได้นะครับ เพราะว่าร้านอยู่ในโรงแรมหรู ซึ่งเข้าใจว่าโรงแรมก็ต้องให้เกียรติแขกที่เข้ามาพักด้วยเช่นกันครับ จะมาทานที่ห้องอาหารแห่งนี้แนะนำให้โทรมาจองโต๊ะไว้ก่อนเลยนะครับ เพราะทางร้านจะได้จัดเตรียมโต๊ะไว้ให้พร้อม ไม่ต้องกลัวเต็มอีกด้วยครับ
การบริการของพนักงานในห้องอาหารแห่งนี้ต้องบอกเลยว่าดีงามมากที่สุดในสามแปดโลก เพราะแต่ละโต๊ะนั้นจะมี butler มาคอยดูแลตลอดการทานอาหารของเราเลยครับ ทั้งรับออเดอร์ เสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหาร รวมถึงตลอดการทานนั้นก็มีการสอบถามถึงอาหารอยู่อย่างต่อเนื่อง ถ้าใครไม่ถูกใจในส่วนไหนหรืออยากขอความช่วยเหลือนั้นก็สามารถแจ้งพนักงานได้ตลอดเวลาเลยครับ
[รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า]
วันนี้ผมมาทานอาหารช่วงค่ำครับ หลังจากผมออเดอร์ไป ทางร้านเริ่มเสิร์ฟมาด้วยไวน์แล้วก็ขนมปังก่อน ขนมปังของทางร้านมีสองชนิดด้วยกันครับเป็น Stick กับ Onion Bread บนโต๊ะนั้นมี Balsamic Vinegar กับ Olive Oil ไว้ให้ทานกับขนมปัง ตัวขนมปังนั้น Stick ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานขนมปังกรอบครับ รสชาติดี ส่วน Onion Bread นั้นอร่อยมากๆๆ หอมกลิ่นหัวหอมจริงจัง ขนมปังนุ่มมากเป็นสไตล์อิตาเลียนแท้ๆเลย ใครทานไม่อิ่มสามารถขอเพิ่มได้นะครับ หรือถ้าใครอยากทานกับเนยก็สามารถขอจาก Butler ได้เลยเช่นกันครับ
Culatello e Melone (440 บาท)
- เมนูนี้เป็นพาร์มาแฮมกับเมลอนสไลด์บางๆเสิร์ฟมาคู่กันเหมือนเป็นดอกไม้ และมันก็ไม่ใช่แค่จะหน้าตาสวยงามอย่างเดียวครับ เพราะรสชาติของมันนั้นอร่อยมากๆครับ ทั้งตัวพาร์มาแฮมที่ทางร้านนั้นนำเข้ามาจากอิตาลีโดยตรง รับรู้ได้ถึงรสชาติของแฮมอิตาลีจริงๆ ส่วนเมลอนนั้นก็หวานอร่อย ตัดกันได้ดี ลงตัวสุดๆครับ (5/5)
Carpaccio di Tonno (410 บาท)
- เมนูนี้เป็นปลาทูน่าหั่นเป็นแผ่นบางเสิร์ฟมาพร้อมกับหัวหอม ส้ม แล้วก็มัสตาร์ดครับ ตัวทูน่านั้นอร่อยมากครับ เป็นแผ่นบางๆแต่ทานเข้าไปแล้วฟินมาก เนื้อปลาทูน่านั้นสดใหม่ เชื่อเลยว่าอิมพอร์ตเข้ามาจริงๆ ทานคู่กันกับพวกหัวหอม ส้ม แล้วก็มัสตาร์ดที่เสิร์ฟมาคู่กันอร่อยสุดๆครับ (4/5)
Tortelli Ricotta e Spinaci (450 บาท)
- เมนูนี้เป็นตอติลี่ในซอสมะเขือเทศ ตัวตอติลี่นั้นหน้าตาคล้ายๆเกี๊ยวปลาที่ด้านในเป็นชีสกับผักโขมครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับพาเมซานชีสไว้ให้โรยทานคู่กัน เมนูผักโขมกับชีสนี่ทานที่ไหนก็อร่อยอยู่แล้ว พอมาเจอของที่นี่ยิ่งอร่อยหนักเลยครับ เพราะแป้งของตัวตอติลี่นั้นเหนียวนุ่มอร่อยสุดๆ ไส้ด้านในตัวผักโขมกับชีสนั้นก็ฟินมาก ซุปมะเขือเทศก็โดนใจ อาจจะออกเค็มๆไปหน่อย เติมชีสลงไปก่อนทานก็ช่วยตัดรสเค็มได้อีกด้วยครับ (5/5)
Brandzino al Forno (700 บาท)
- เมนูนี้เป็นปลากระพงและหอยตลับนึ่งสมุนไพร saffron มะเขือเทศ แล้วก็ vongole เป็นเมนูที่ผมว่ามันคุ้มมากที่สุดในเซตเมนูนี้แล้วครับ เพราะได้ปลาตัวใหญ่หั่นมาแบบ fillets ถึงสองชิ้นด้วยกันครับ ตัวเนื้อปลานั้นสดมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลย หอยตลับก็อร่อยเช่นกัน ปรุงมากำลังดี ถูกใจสุดๆครับ (5/5)
Angelini's Tiramisu (280 บาท)
- ทิรามิสุของทางร้านหน้าตาดีมากครับ มีการสลักคำว่า Angelini ไว้ด้านบนด้วย รสชาติของทิรามิสุนั้นอร่อยมากครับ เข้มข้นทั้งรสกาแฟ ช็อกโกแลต แล้วก็ครีม ทานแล้วหยุดไม่ได้ตักแปปเดียวหมดถ้วยแล้ว ฮ่าๆ (5/5)
Pannacotta (280 บาท)
- พานาคอตต้าของทางร้านดีงามอีกเช่นกันครับ เป็นรสสตอเบอรี่ที่มีทั้งเนื้อสตอเบอรี่แล้วก็แยมที่อร่อยลงตัวกับพานาคอตต้ามากครับ ตัวพานาคอตต้านั้นก็นุ่มอร่อยด้วยครับ (5/5)
ผมกับเพื่อนสั่งไวน์มาทานกันคนละแก้ว ของผมเป็น Pinot Grigio ส่วนของเพื่อนผมเป็น Rose ไวน์ของทางร้านนั้นอิมพอร์ตมาจากทางอิตาลีโดยตรง ทานกับซีฟู้ดแล้วก็เมนูไหนๆของทางร้านก็ลงตัวไปหมดทุกอย่างเลยครับ ราคาของไวน์ตกอยู่ที่แก้วละประมาณ 400 บาทครับ
วันนี้ประทับใจมากๆทั้งในส่วนของอาหารที่แบบดีกว่านี้คงไม่ได้อีกแล้วจริงๆ การบริการก็ยอดเยี่ยม เชื่อมือแชงกรีลาได้เลยครับ ร้านนี้ต่อให้โปรโมชั่นไม่มีแล้วก็ควรต้องไปทานครับ เหมาะทั้งกับคนที่ไปทานคุยธุรกิจหรือจะไปสวีทกับแฟนก็ได้บรรยากาศที่ดีมากๆไปอีกแบบนึงเลยครับ 

ห้องอาหารการ์เด้น คอร์ท (Garden Court)เป็นห้องอาหารจีนที่เปิดให้บริการมากว่า 23 ปี อยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ขึ้นบันไดเลื่อนมาห้องอาหารอยู่ซ้ายมือ ในเทศกาลตรุษจีนนี้ทางห้องอาหารการ์เด้น คอร์ท (Garden Court)ได้จัดเมนูเซ็ทมงคลเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันที่ 7 - 13 ก.พ. 59 เรามีโอกาสไปร่วมชิมเมนูเซ็ทมงคลนี้ล่วงหน้า (SR)ก็ขอนำภาพ และรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารมาฝากกัน เผื่อใครกำลังมองหาร้านอาหารที่จะพาครอบครัวไปอิ่มหนำสำราญกันในช่วงนั้นจะได้ดูไว้เป็นอีก 1 ทางเลือกจ้าห้องอาหารการ์เด้น คอร์ท (Garden Court) บรรยากาศในห้องอาหารตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัย เน้นสีแดง-ดำ และเหลือง-ทอง ซึ่งเป็นสีมงคลของชาวจีนภายในห้องอาหารสามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 220 ที่นั่งสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองห้องส่วนตัวได้ (500 บ.) โดยสามารถรองรับลูกค้าตั้งแต่ 6 - 10 ท่าน / ห้องเซ็ทมงคลสำหรับเทศกาลตรุษจีนปีลิงแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย เป็นเซ็ทอาหารโต๊ะจีนสำหรับ 10 ท่าน ในราคา 9,999 บ. (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ประกอบไปด้วย

ออร์เดิร์ฟบาบีคิว (Hors D'Oeuvers Barbecued Meat Combination) ที่ประกอบไปด้วยแมงกระพรุน , หมูแดง , หมูกรอบ และเป็ดย่าง จานนี้ต้องบอกว่าอร่อยถูกใจทุกคนในโต๊ะแมงกระพรุนส่วนตัวเราชอบทานอยู่แล้ว กรุบ ๆ ดีหมูแดงก็นุ่มไม่แห้งหมูกรอบนี่รักเลย กรอบอร่อยเคี้ยวเพลินจนลืมอ้วนไปชั่วคราวเป็ดย่างก็เนื้อแน่น
จานนี้อร่อยจนแทบอยากจะขอเบิ้ลหูฉลามน้ำแดงขาปูอลาสก้า (Shark's Fin Soup With Alaska King Crab) หูฉลามที่ได้ทานไม่ใช่ส่วนครีบ มาเป็นชิ้น ๆ กรึบ ๆ ทานคู่กับขาปูอลาสก้า อร่อยไปอีกแบบ เราซดจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำเป็ดปักกิ่ง (Barbecued "Peking" Duck) หนังเป็ดแล่มาบาง ๆ กรอบ ๆ เสิร์ฟคู่กับแป้งนุ่ม ๆ แตงกวา ต้นหอม และน้ำราดจานนี้ต้องบอกว่าชอบอีกแล้ว น้ำราดเค้าจะข้นเหนียวรสหวาน ๆ ทานทุกอย่างพร้อม ๆ กันอร่อยติดใจ ไม่จบแค่ชิ้นเดียวเนื้อเป็ดนำไปทำเป็นเมี่ยงเป็ด เสิร์ฟคู่กับผักกาดแก้วเมี่ยงเป็ดทานคู่กับผักกาดแก้วเป๋าฮื้อเห็ดชิเมจิน้ำมันหอย (Braised Abalone And Shimeji Mushroom With Oyster Sauce)เป๋าฮื้อตัวโต ๆ เสิร์ฟคู่กับเห็ดชิเมจิ และบล็อคเคอรี่ เป๋าฮื้อเด้ง ๆ หนึบ ๆ อร่อย ชอบค่ากุ้งผัดแปะก๊วยซอสต้นหอม (Stir-Fried Prawns With Gingko Nuts And Spring Onion Sauce)กุ้งแม่น้ำตัวโตเนื้อแน่น ผัดกับแปะก๊วยเคี้ยวเพลิน ๆคะน้าฮ่องกงกับเห็ดหอมทองผัดพริกแห้ง (Stir-Fried Hong Kong Kale With Dried Chili)คะน้าก้านใหญ่แต่ไม่แข็ง ไม่ขม ทานง่าย คนชอบกินผักเลิฟเลยปลาเก๋าดำนึ่งซีอิ้ว (Steamed Black Groupa With Soya Sauce) ปลาเนื้อขาว ๆ อวบ ๆ ทานคู่กับซีอิ้วและต้นหอม รสชาติกลมกล่อมดี เป็นอีก 1 เมนูที่ชอบอีหมี่ผัดแห้งเนื้อปู (Fried E-Fu Noodle With Crab Meat)ตัวเส้นทำมานิ่มไปนิด (เราชอบกินเส้นแข็ง ๆ ) รสอ่อนไปหน่อย แต่เนื้อปูตรึมฟักทองบดใส่แปะก๊วย รสชาตคล้าย ๆ ซุปฟักทอง เนื้อเนียน ๆ มีเม็ดแปะก๊วยใส่มาด้วยสำหรับใครที่มาทานเซ็ทมงคลจะได้รับ Red Label 4 ขวด(20ml.) กลับบ้านไปด้วย ทั้งหมดนี้ราคา 9,999 บ./10 ท่าน หรือถ้าไม่ทานเป็นเซ็ทก็เลือกทานเป็นบุฟเฟต์ติ่มซำมื้อกลางวัน หรือค่ำในราคา 899 บ./ท่านเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 - เสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 พิเศษเฉพาะวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ รับส่วนลด 20% เมื่อมาตั้งแต่ 5 ท่านขึ้นไป (สำหรับเมนูบุฟเฟ่ต์)พร้อมชมโชว์ “เชิดสิงโต”เอาฤกษ์เอาชัย รับ “ส้ม”เสริมมงคล และ “อั่งเปา”นำโชค กลับบ้านทุกครอบครัว